ยะลา - ลูกจ้างในจังหวัดยะลาชี้รัฐบาลขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในจังหวัดชายแดนใต้ 2 บาท ไม่มีผลกับการดำรงชีพ ขณะที่ผู้ประกอบการพร้อมให้ความร่วมมือ แนะทบทวนให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่
กรณีที่มีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (บอร์ดค่าจ้าง) 3 ฝ่าย ที่ประกอบด้วยฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล พิจารณาการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีมติขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำที่คาดจะเริ่มใช้วันที่ 1 มกราคม 2567 ทั่วประเทศ 2-16 บาท โดย จ.ภูเก็ต เพิ่มสูงสุด 16 บาท ได้ปรับจาก 354 บาทเป็น 370 บาท ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ได้ปรับน้อยสุดคือ 2 บาท จาก 328 บาท เป็น 330 บาท ขณะที่เมื่อเฉลี่ยค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่ทั่วประเทศ 77 จังหวัด จะเท่ากับ 345 บาท และเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 12 ธ.ค.66
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังชาวบ้านในพื้นที่ จ.ยะลา หลังจากมีมติขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ โดย น.ส.กฤตพร ทุมรัตน์ อายุ 28 ปี พนักงานขายอุปกรณ์ไฟฟ้า เผยว่า การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำถือว่าดี แต่ถ้าตีเป็นเงินเพิ่มจากเดิม 2 บาท ถ้าตีกับคนทำงานเดือนหนึ่งใช่ไหมคะ เพราะเขาทำงาน 26 วัน บวกไปอีกวันละ 2 บาท แต่ตนมองว่าถ้าเพิ่มขึ้นแค่ 2 บาท มันวัดไม่ได้หรือว่าหมายถึงว่าถ้าจะซื้อของเพิ่มได้ ก็ซื้อเพิ่มได้แค่นิดเดียว มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมาก เพราะว่าบวกเพิ่ม 26 คูณ 2 อยู่ที่ 50 กว่าบาท ตนเองรู้สึกว่ามันเฉยๆ
แต่ว่าหากเพิ่มขึ้นตามแรงงานที่มีคุณภาพ ระดับของเงินที่จะให้ อันนี้ตนว่าเหมาะสม แรงงานมันก็แยกไปอีก แรงงานที่สามารถทำงานให้เหมาะสมกับงานทั้งที่เขาจ้าง กับแรงงานที่ไม่ได้เหมาะสมกับค่าจ้าง ถ้ามองในมุมมองของแรงงาน ถ้าเพิ่มขึ้นตนเองว่าก็ดี บางทีการเพิ่มขึ้นของเงินมันจะทำให้พนักงานมีกำลังใจที่จะทำงานมากขึ้น และจะได้พัฒนาไปมากขึ้น คือ ตนมองว่าไม่พอ ถ้าจะให้มีชีวิตที่ชีวิตที่ดี แต่ว่าอันนี้มันต้องอยู่ที่ตัวของเราด้วยที่ว่าจะผลักให้ตัวเองพ้นจากแรงงานขั้นต่ำหรือไม่
ขณะที่ นายนฤนาท วรศักตยานันต์ เจ้าของกิจการ เผยว่า จากกรณีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งปรับขึ้นวันละ 2 บาท 30 วันก็เท่ากับ 60 บาท ได้ข้าว 1 จาน คิดว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรมากกับการใช้ชีวิตประจำวันในแต่ละเดือน แต่หากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 500 บาท น่าจะมีผลมากเพราะต่างกันเยอะ ซึ่งไม่ได้เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะแต่ละพื้นที่มีค่าแรงต่างกัน ยิ่งกิจการที่ยังต้องการความเติบโตในธุรกิจต้องการแรงงานมาก อาจจะส่งผลกระทบได้
อย่างไรก็ตาม ต้องทบทวนในแต่ละพื้นที่และภาพรวมของประเทศ ซึ่งต้องมีหลักการในการคิด ซึ่งหากมีการขึ้นค่าแรง ข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งผู้ประกอบการต้องได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงอยากฝากผู้มีอำนาจทำการบ้านสักนิดถึงความเหมาะสม ส่วนผู้ประกอบการอย่างตนพร้อมให้ความร่วมมือ
