xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรไร้ที่ทำกินร้องนายกฯ ขอจัดสรรที่ดินแปลงป่าสงวนหมดสัมปทานเกือบ 3 หมื่นไร่ แต่เอกชนยังครอบครองอยู่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - เกษตรกรไร้ที่ทำกินยื่นหนังสือผ่าน ผวจ.ชุมพร ถึงนายกรัฐมนตรี ให้จัดสรรที่ป่าสงวนหมดสัมปทานทำสวนปาล์มนาน 8 ปีแล้ว แต่บริษัทเอกชนยังครอยครองอยู่ ถามถึงผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้แทนประชาชน เคยนำปัญหานี้มาพูดคุยบ้างหรือไม่


เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร นายกฤษฎ์ แก้วรักษ์ พร้อมตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรผู้ไร้ที่ทำกิน จังหวัดชุมพร เข้ายื่นหนังสือขออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือพักอาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ต่อนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ถึงนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน พร้อมจำนวนผู้ลงทะเบียนขอที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาลภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ปี 2559 ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรร จำนวน 1,865 ราย และผู้ขอที่ดินทำกินประจำศูนย์บริการประชาชน ณ วันที่ 7 ธ.ค.66 จำนวน 2,884 ราย รวมจำนวนผู้ขอที่ดินทำกินทั้งสิ้น 4,749 ราย


ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ยากไร้ที่ทำกิน จำนวน 4,749 ราย ได้ประสงค์ขอความกรุณาจากท่านนายกรัฐมนตรี ได้โปรดพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณานำที่ดินของรัฐในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ารับร่อ และป่าสลุย ในเขตตำบลรับร่อ และตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งบริษัทวิจิตรภัณฑ์ เป็นผู้ได้รับอนุญาต และหนังสืออนุญาตดังกล่าวได้หมดอายุตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2558 และวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นเวลานานกว่า 8 ปีแล้ว บัดนี้ยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการในที่ดินป่าสงวนทั้ง 2 แปลง

นายกฤษฎ์ กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรผู้ไร้ที่ทำกิน เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนจำนวน 4,749 ราย ที่ไม่มีที่ทำกินมีข้อเสนอในที่ดิน 2 แปลงในเขตป่าสลุย ในเขตตำบลรับร่อ และตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ แปลงที่ 1 จำนวน 19,835 ไร่ แปลงที่ 2 จำนวน 9,334 ไร่ บริษัทผู้ดีรับสัมปทานเข้าทำประโยชน์และพักอาศัยมาแล้วถึง 2558 รวม 30 ปี ผ่านมา 8 ปี ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้ จึงอยากให้ชาวชุมพรได้ใช้ทรัพยากรที่ดินในจังหวัดชุมพรบ้าง รัฐบาลประกาศไว้อย่างชัดเจนว่าคนไทยได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี คนจนต้องเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติได้ ลดความเหลื่อมล้ำ แต่เห็นว่าปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข


นายกฤษฎ์ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่จะฝากไว้กับสื่อมวลชนช่วยลงตรวจสอบกับพวกเราเครือข่ายเกษตรกรผู้ไร้ที่ทำกินว่า บริษัทคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ในการขออนุญาตครั้งที่ 2 บริษัทลดพื้นที่ขออนุญาตลง 5,804 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า ณ วันนี้กรมป่าไม้ทำอะไรบ้างในที่ดิน 5,804 ไร่ ซึ่งในพื้นที่นี้มีต้นปาล์มที่มีผลผลิตเป็นลูกปาล์ม ถามว่าให้โอกาสคนจนๆ ได้ไหม ออกใบอนุญาตเก็บของป่าได้หรือไม่ เพราะต้นปาล์มที่อยู่ในแปลง 5,804 ไร่ ถือว่าเป็นของป่า ซึ่งส่วนนี้ศาลปกครองไม่ได้คุ้มครอง ออกใบอนุญาตให้คนจนเข้าไปเก็บลูกปาล์ม นอกจากจะมีรายได้แล้ว ชาวบ้านที่ได้รับอนุญาตสามารถช่วยรัฐบาลดูแลเป็นหูเป็นตาการบุกรุกยึดครองพื้นที่ของกลุ่มบุคคลต่างๆได้อีก ที่ผมพูดทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ของคนจังหวัดชุมพร

“ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้แทนประชาชน เคยเอาเรื่องราวเหล่านี้มาพูดบ้างหรือเปล่า ผมไม่ได้เลือกแต่ผมเกิดจังหวัดชุมพร เห็นใจคนจังหวัดชุมพรเขาเดือดร้อน และอยากให้มีที่ดินทำกินความเดือดร้อนจะได้ลดน้อยลง ท่านผู้ว่าฯ จังหวัดชุมพรท่านนี้ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวเก่าๆ ในอดีต แต่ในฐานะเป็นพ่อบ้านพ่อเมือง ลูกท่าน จำนวน 4,749 ราย เดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน


ผมว่าไม่มีพ่อท่านไหนใจดำปล่อยให้ลูกตกระกำลำบาก วันนี้เลยมาหาท่าน เพื่อให้นำเรื่องราวเหล่านี้เสนอนายกรัฐมนตรี และในฐานะเครือข่ายร่วมเกษตรกรผู้ไร้ที่ทำกินจังหวัดชุมพรนำเอกสารต่างๆ เหล่านี้เสนอต่อกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร และอาจจะไปยื่นหนังสือติดตามทวงถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโอกาสต่อไป” นายกฤษฎ์ แก้วรักษ์ ตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรผู้ไร้ที่ทำกิน กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น