พัทลุง - พี่ชายเผยเรื่องราวของน้องสาวที่เป็นนักศึกษาปี 4 ซึ่งวางแผนจะกลับบ้านที่พัทลุง หวังเซอร์ไพรส์ครอบครัวในวันพ่อแห่งชาติ และได้นั่งรถทัวร์คันที่เกิดอุบัติเหตุตกข้างทางชนต้นไม้ที่ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
วันนี้ (6 ธ.ค.) จากกรณีที่เกิดเหตุรถทัวร์โดยสารตกไหล่ทางชนต้นไม้ ซึ่งเป็นรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-นาทวี เหตุที่ถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 331-332 หมู่ที่ 7 ต.ห้วงยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย และได้รับบาดเจ็บ 33 ราย โดยเกิดเหตุเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.66
ล่าสุด ผู้เสียชีวิตที่เดินทางมากับรถทัวร์ดังกล่าวเป็นชาวพัทลุง 2 ราย โดยรายแรกคือ นายสมบูรณ์ เหล็มเนียม อายุ 63 ปี ชาวบ้านศาลาเม็ง พื้นที่ ม.3 คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง โดยศพได้เดินทางมาถึงเมื่อคืนนี้ และในช่วงเช้าทางญาติได้ทำพิธีประกอบทางศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดอามิลบาหุสลาม บ้านศาลาเม็ง และทำพิธีฝังตามประเพณีศาสนา ในช่วงสายของวันเดียวกัน ท่ามกลางญาติพี่น้องเดินทางมาส่งวิญญาณครั้งสุดท้าย
รายที่ 2 คือ น.ส.ศุภรัตนา เหตุทอง อายุ 24 ปี หรือน้องเฟิร์น นิสิตหลักสูตรการศึกษาบัณฑิตสาขาวิชาศิลปศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยพ่อแม่และญาติได้นำศพมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านเกิด วัดทุ่งลาน ต.ตำนาน อ.เมือง จ.พัทลุง
โดยทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหัน โดยพี่ชายเล่าสั้นๆ ว่า น้องสาวได้โทร.บอกว่าจะกลับบ้าน จะมารถทัวร์ ให้พี่ชายออกมารับในช่วงตี 4 ที่สถานีขนส่งพัทลุง แต่อย่าเพิ่งบอกพ่อ เนื่องจากอยากกลับมาเซอร์ไพรส์พ่อในวันพ่อแห่งชาติ แต่สุดท้ายน้องกลับมาไม่ถึงบ้าน ทั้งที่ปกติน้องเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุดนั้นมักจะเดินทางด้วยเครื่องบินตลอด แต่รอบนี้มารถทัวร์ และได้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นทำให้น้องต้องจากไป
ขณะที่ นางรัชนี เหตุทอง ผู้เป็นแม่ อายุ 53 ปี ยังอยู่ในการการโศกเศร้า โดยมีลูกชายและญาติคอยปลอบใจในการจากไปของน้องเฟิร์น โดยแม่ได้บอกว่า ลูกสาวกำลังจะเรียนจบในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึง และทำเรื่องจบไว้กับทางมหาวิทยาลัยแล้ว โดยคิดว่าจะเป็นความหวังของครอบครัว ลูกเรียนครูศิลปะตามที่เขาถนัด แต่สุดท้ายน้องจากไปทั้งที่กำลังเดินทางกลับบ้านเพื่อกอดพ่อกอดแม่ในวันพ่อแห่งชาติ
