xs
xsm
sm
md
lg

เงินไปไหน! ผอ.สำนักลงพื้นที่ตรวจอุทยานหาดเจ้าไหม รายได้หายหลายล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ผอ.สำนักอุทยานลงพื้นที่อุทยานฯ เจ้าไหมหลังได้รับร้องเรียนเจ้าหน้าที่ไม่เก็บค่าเข้า ตรวจเจอกับตา ค้นรายงานรายได้แค่วันละหลักหมื่นบาท ทำรัฐสูญรายได้นับแสนบาทต่อวัน ต่อปีเก็บได้เพียง 3-6 ล้านบาท ขณะที่อุทยานฯ อื่นได้หลายสิบล้าน สงสัยผู้ประกอบการจ่ายตรงเจ้าหน้าที่โดยไม่ผ่านตั๋ว สั่งหัวหน้าอุทยานฯ เจ้าไหมชี้แจง

วานนี้ (29 พ.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำทีมชุดพญาเสือลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจพื้นที่เกาะกระดาน เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยได้แวะเข้าสุ่มตรวจหน้าถ้ำมรกต ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ของ จ.ตรัง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก เคยสูงสุดหลายพันคนต่อวัน เช่นเดียวกับเกาะกระดาน ชายหาดที่สวยที่สุดในโลก เนื่องจากได้รับร้องเรียนมาเจ้าหน้าที่ไม่จัดเก็บค่าเข้าใช้บริการ

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนมานานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หาดเจ้าไหมไม่จัดเก็บค่าเข้าใช้บริการถ้ำมรกต กอปรกับรายงานการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานหาดเจ้าไหม ที่แม้จะมีพื้นที่จัดเก็บหลายแห่ง แต่รายได้ต่อวันต่ำกว่าอุทยานอื่นๆ มาก ได้เพียงหลักหมื่นบาทต่อวัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

“บางเดือนได้แค่ 2-3 หมื่นบาท ไม่เคยเกิน 4 หมื่นบาท ขณะที่อุทยานอื่นๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงรายได้ต่อวันนับแสนบาท จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความจริง วันนี้จึงเดินทางมาตรวจสอบด้วยตนเอง พบความจริงว่าทั้งภาคเช้าและภาคบ่ายที่เข้ามาสุ่มตรวจ ไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานหาดเจ้าไหมเข้ามาจัดเก็บค่าธรรมเนียม” นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย มีทั้งเรือยอชต์ เรือหางยาวนำเที่ยวจำนวนมากมาจอดลอยลำ เพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายในถ้ำ ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติตลอดทั้งวัน เจ้าของเรือ ไกด์นำเที่ยว ยอมรับว่าไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดเก็บค่าธรรมเนียม ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ สำหรับอัตราค่าเข้า ซึ่งเรียกเก็บชาวไทย เด็ก 20 บาท/คน ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน ชาวต่างประเทศ เด็ก 100 บาท/คน ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน แต่จะเก็บแค่บนฝั่งเท่านั้น เรือทุกลำเขาพร้อมจ่ายถ้าเจ้าหน้าที่มาประจำการ


นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า อุทยานหาดเจ้าไหมถ้าทำไม่ได้ต้องชี้แจงว่าทำไมถึงทำไม่ได้ ที่ผ่านมา อุทยานหาดเจ้าไหมได้รายงานค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บได้ในวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้เพียงหมื่นกว่าบาท ประกอบด้วยชาวต่างชาติ 1 คน รถยนต์ 9 คัน ชาวไทย 18 คน ส่วนที่ทำการเกาะกระดาน รายงานชาวต่างชาติจำนวน 35 คน ชาวไทย 4 คน เรือยนต์ 3 ลำ เรือเล็ก 3 ลำ ที่หาดปากเมง คนไทย 14 คน ชาวต่างชาติ 5 คน เรือใหญ่ 1 ลำ รวมชาวต่างชาติทั้งหมด 41 คน รายงานมาเป็นยอดเงินทั้งสิ้นจำนวน 10,070 บาท

วันที่ 28 พ.ย. อุทยานหาดเจ้าไหม รายงานว่ามีนักท่องเที่ยวที่ทำการอุทยาน 2 คน ที่เกาะกระดาน 72 คน รวมทั้งหมด 74 คน และเป็นเฉพาะชาวต่างชาติ แต่วันนี้จู่โจมเข้ามาตรวจสอบโดยไม่ได้แจ้งให้อุทยานหาดเจ้าไหมรู้ กลับพบเจอเรือหางยาวนับสิบลำ รวมๆ ไม่ต่ำกว่า 400-500 คน รายได้เข้ารัฐหายไปวันนี้นับแสนบาทเฉพาะแค่ที่ถ้ำมรกตแค่จุดเดียว

“สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และหน่วยงานตรวจสอบเพ่งเล็งการจัดเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานอยู่ จะต้องให้โปร่งใส่ เป็นไปได้ว่าผู้ประกอบการอาจมีการจ่ายตรงกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่ผ่านตั๋วเข้าชม รายได้ต่อปีอุทยานหาดเจ้าไหมรายงานได้แค่ปีละ 3-6 ล้านบาท แต่ในขณะที่อุทยานอื่นๆ จัดเก็บได้วันละเป็นแสนบาท ตกปีละหลายสิบล้านบาท ทั้งหมดนี้จะต้องให้นายพริษฐ์ นราสฤษฏ์กุล หัวหน้าอุทยานหาดเจ้าไหมทำรายงานชี้แจงมาทั้งหมด” นายชัยวัฒน์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น