xs
xsm
sm
md
lg

สุดสลด! สามีทะเลาะภรรยาขอแยกทางชักปืนยิงเมียพร้อมลูก 2 คน ก่อนยิงตัวตายตาม ดับ 3 สาหัส 1

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุสุดสลด! สามีทะเลาะกับภรรยาที่ขอแยกทาง ชักอาวุธปืนยิงเมีย พร้อมลูกสาววัย 9 และ 11 ขวบ ก่อนจ่อยิงตัวตายตาม หวังจบปัญหาชีวิต พบเสียชีวิต 3 ราย เหลือเพียงลูกสาวคนโตสาหัสเป็นตายเท่ากัน

วันนี้ (22 พ.ย.) ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 12 บ้านเขารักเกียรติ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตั้งอยู่ริมถนนสายหาดใหญ่-รัตภูมิ (สายเก่า) หลังจากที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ ได้รับแจ้งเหตุ ทาง พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.สภ.รัตภูมิ พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน ทั้ง พ.ต.ท.ณัฏฐ์วิณัท วิภาศินนท์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ภาสกร กิจไพบูลย์ทวี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วิโรจน์ สะเหรียม รอง ผกก.สอบสวน ร.ต.อ.สมปอง แก้วศิริ รอง สว.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 และกู้ภัยรัตภูมิ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

โดยพบว่าที่บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังใหญ่ มีรั้วล้อมรอบ ที่หน้าบ้านมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตคาที่ 2 ราย คือ น.ส.พรรณี สะการัญ หรือดาว อายุ 40 ปี เป็นผู้ช่วยทันตแพทย์โรงพยาบาลรัตภูมิ นอนหงายเสียชีวิตอยู่ตรงเสาข้างประตูบ้าน โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ในมือขวายังสะพายกระเป๋าอยู่

อีกรายคือ ด.ญ.ณฐพร สะการัญ อายุ 9 ขวบ หรือน้องโมน่า ลูกสาวคนเล็ก ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่ศีรษะ 1 นัด นอนเสียชีวิตในลักษณะหมอบกราบอยู่ตรงเสาระเบียงหน้าบ้าน คล้ายกับพยายามร้องขอชีวิตก่อนถูกยิง และยังมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ญาติได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลรัตภูมิไปก่อนแล้ว คือ นายประทีป สะการัญ อายุ 39 ปี หรือต๊อก ซึ่งเป็นคนก่อเหตุ และเป็นหัวหน้าครอบครัว ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่ศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา อีกคนคือ ด.ญ.ณภิญา สะการัญ อายุ 11 ขวบ หรือน้องนาดา ลูกสาวคนโต ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่ศีรษะ 1 นัด อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน และถูกส่งต่อไปโรงพยาบาลหาดใหญ่

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่หน้าบ้าน 1 กระบอก ซึ่งในแมกกาซีนถูกยิงออกไปแล้ว 4 นัด และเหลือค้างอยู่อีก 4 นัด พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 3 ปลอก พร้อมหัวกระสุน


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายประทีป ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับลูกสาวทั้ง 2 คน กลับจากโรงเรียน ซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านกำแพงเพชร โดยน้องโมน่า คนน้องเรียนอยู่ชั้น ป.4 ส่วนน้องนาดา คนพี่เรียนอยู่ชั้น ป.6 และเวลาไล่เลี่ยกัน น.ส.พรรณี ภรรยา ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากทำงานที่โรงพยาบาลรัตภูมิ และกำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่ได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน

จากนั้นนายประทีบ จึงได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงภรรยาจนล้มลง และยังจ่อยิงลูกสาวทั้ง 2 คน ที่ยืนอยู่หน้าบ้านในชุดนักเรียน แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายตาม และจากเสียงปืนที่ดังขึ้นต่อเนื่องกันถึง 4 นัด ทำให้นายปราโมทย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของภรรยา และมีบ้านอยู่ใกล้กันวิ่งมาดู พบว่าประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านถูกล็อกกุญแจเอาไว้ และตรงหน้าบ้านเห็นทั้ง 4 คน นอนจมกองเลือดเรียงรายกันอยู่ จึงได้ข้ามกำแพงเข้าไปดู พบว่าแม่และลูกสาวคนเล็กเสียชีวิตแล้ว ส่วนพ่อและลูกสาวคนโตยังมีลมหายใจ จึงได้เรียกให้ญาติๆ พาทั้ง 2 คนไปส่งโรงพยาบาล แต่พ่อเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหลือเพียงลูกสาวคนโตที่อาการสาหัส

หลังเกิดเหตุตำรวจได้สอบถามญาติ และเพื่อนบ้านในละแวกเกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนหน้านี้ นายประทีป เคยถูกจับกุมในคดีจำหน่ายยาเสพติด และคดีอยู่ในระหว่างชั้นพิจารณา และต้องใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า โดยพักหลังทางภรรยาต้องการที่จะขอแยกทาง แต่ฝ่ายสามีไม่ยอมเลิก ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องระหองระแหงทะเลาะกันหลายครั้ง และทางญาติคอยช่วยกันพูดคุยให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน

จนกระทั่งในช่วงเย็นของวันนี้ ทั้งคู่ได้มีปากเสียงทะเลาะกันอีก ทำให้นายประทีป น่าจะหมดความอดทน เพราะหึงหวงและโกรธที่ภรรยาขอแยกทาง จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงภรรยา และลูกทั้ง 2 คน ก่อนจะยิงตัวตายตามเพื่อหวังตัดปัญหาชีวิต ตายตามกันไปทั้งครอบครัว






กำลังโหลดความคิดเห็น