สุราษฎร์ธานี - ญาติแจ้งความสาว อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ จ.สุราษฎร์ธานี วัย 38 ปี หายตัวปริศนานกว่า 1 สัปดาห์ แจ้งความ ตร. แต่คดียังไม่คืบ แถมไร้ร่องรอย หวั่นเกิดเหตุร้ายแรง เพื่อนเผยเป็นคนร่าเริง เพิ่งหย่ากับสามีได้ประมาณ 3 เดือน
วันนี้ (21 พ.ย.) ญาติของ น.ส.กวินนา บุุณเมศวร์ หรือฝน อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ แจ้งว่า น.ส.ฝน ได้หายตัวไปตั้งแต่คืนวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ญาติและหน่วยงานแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งค้นหา ซึ่งการหายตัวไปขณะนี้เป็นเวลาถึง 8 วันแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าและไร้เบาะแส ญาติหวั่นวิตกว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
นายวสัญ ช่วยพัฒน์ เลขานุการนายก อบต.เปิดเผยว่า น.ส.ฝน ทำงานตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ประจำ อบต.เพิ่มพูลทรัพย์ โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา เดินทางมาทำงานตามปกติ และกลับบ้านในเวลา 18.00 น. แต่วันรุ่งขึ้นไม่ได้เดินทางมาทำงานและขาดการติดต่อ เพื่อนๆ ที่ทำงานไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากโทรศัพท์ถูกปิด เมื่อไปสอบถามอดีตสามี ของ น.ส.ฝน ที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างจาก อบต.ไปประมาณ 200 เมตร ได้รับแจ้งว่าไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ว่าหายไปไหน ซึ่งหลังจากขาดการติดต่อและขาดงานไป 2 วัน ทางนายก อบต.ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาสาร ให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามเนื่องจากเกรงจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
ขณะที่เพื่อนๆ ที่ทำงานต่างบอกว่า น.ส.ฝน เป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อนจึงไม่น่าจะมีใครปองร้าย แต่ก่อนหน้านี้ ตัว น.ส.กวินนา ได้มีการหย่าร้างกับสามีที่อยู่กินกันมานานกว่า 10 ปี ได้ประมาณ 3 เดือน แต่ยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน
ด้านเพื่อนสนิทของน้องฝน คนหนึ่งบอกว่า ตัว น้องฝน ได้ซื้อบ้านหลังใหม่ในพื้นที่ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และเตรียมขอย้ายที่ทำงานจาก อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ ไปอยู่ที่ อบต.ขุนทะเล เนื่องจากอดีตสามีมีพฤติกรรมหึงหวงมาก และเป็นคนเอาแต่อารมณ์ ซึ่งระยะหลังมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนถึงขอย้ายที่ทำงานและหย่าร้างกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ ผกก.สถ.บ้านนาสาร เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ขุนทะเลและ สภ.บ้านนาสาร โดยการสอบปากคำอดีตสามีของผู้สูญหายได้ให้การว่า ในคืนวันที่ 13 พ.ย.ได้ขับรถกระบะมาส่งอดีตภรรยาที่ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดเพื่อนำมาประกอบกับคำให้การของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และได้ขอความร่วมมือเพื่อนของผู้สูญหายมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเร่งคลี่คลายปมการหายตัวไป
ด้าน นางสุพิตร์ พัฒน์มาก อายุ 76 ปี แม่อดีตสามี เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่บ้านในสวน ส่วนบ้านนี้มีลูกชายและเมียพร้อมลูกๆ อาศัยอยู่กัน การหย่าร้างระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เรื่อง มารู้จากหลังเกิดเหตุลูกชายมาเล่าให้ฟัง ซึ่งทั้งคู่อยู่กินกันมา 10 กว่าปี มีลูกด้วยกันถึง 3 คน และไม่เคยคิดว่าทั้งคู่จะมาหย่ากัน ซึ่งก่อนหน้านี้เห็นทั้งคู่รักกันดี ต่างช่วยกันทำมาหากิน และในคืนวันที่ 13 ลูกชายบอกว่า อดีตลูกสะใภ้จะขับรถเก๋งออกไปในเมือง แต่ลูกชายได้ห้ามและขอเป็นคนขับรถไปส่งเอง ซึ่งลูกชายบอกว่าห่วงความไม่ปลอดภัยของอดีตภรรยา ดังนั้นจึงมั่นใจว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของอดีตลูกสะใภ้
ในขณะเดียวกัน ผู้นำชุมชนและชาวบ้านออกค้นหาตามสถานที่ต้องสงสัยว่า หากเกิดเหตุร้ายขึ้น ร่างของผู้สูญหายอาจนำมาทิ้งลงในบ่อน้ำในพื้นที่เพื่ออำพรางคดี ซึ่งชาวบ้านพบบ่อน้ำแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ซึ่งมีร่องรอยที่น่าสงสัยจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่าการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
