ศูนย์ข่าวภาคใต้ - รักษาการผู้ว่าฯ ตรังรุดเยี่ยมชาวบ้านตระ มอบของบรรเทาทุกข์ ชาวบ้านโอดเดือดร้อนหนักยื่นหนังสือเรียกร้อง 3 ข้อ อยากกลับไปใช้ชีวิตปกติ ขอให้ซ่อมถนนที่ทำพัง ติดตั้งเครื่องมือสื่อสารในหมู่บ้าน เพื่อแจ้งข่าวให้เจ้าหน้าที่ได้ รักษาการผู้ว่าฯ ตรังรับปากหางบซ่อมถนนให้ แต่ต้องให้กรมป่าไม้เป็นผู้ดำเนินการตามระเบียบ
วานนี้ (20 พ.ย.) เวลา 16.00 น. ที่จุดสกัดน้ำตกโตนตก หมู่ที่ 2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ร่วมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง ให้กลุ่มเปราะบางในพื้นที่บ้านตระ จำนวน 27 ครัวเรือน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ชาวบ้าน จากกรณีที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับกุมนักโทษชายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “แป้ง นาโหนด” ที่ได้หลบหนีเข้าไปในพื้นที่
ทั้งนี้ นายล่อง เพชรสุด ตัวแทนองค์กรชุมชนบ้านตระ พร้อมด้วยชาวบ้านตระกว่า 10 คน ได้ยื่นหนังสือต่อรองผู้ว่าฯ ตรัง เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยแก้ปัญหา เช่น ถนนของชาวบ้านที่พังจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ผลกระทบที่มีต่อการทำมาหากิน เป็นต้น โดยชาวบ้านตระได้ร่วมกันชูป้ายไวนิลที่มีข้อความว่า "บ้านตระได้รับผลกระทบจากการที่เจ้าหน้าที่ไล่ล่า เสี่ยแป้ง นาโหนด (เชาวลิต ทองด้วง)”
ข้อเรียกร้องมี 3 ข้อ ได้แก่ 1.ขอให้ทำกินตามวิถีชีวิตชุมชนกลับสู่ปกติสุข 2.ขอให้มีหน่วยงานรับผิดชอบปรับปรุงเส้นทางเข้าออกที่ได้รับความเสียหายให้เป็นปกติเหมือนเดิม เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวได้มาจากการร่วมทุนและลงแรงของชาวบ้านมิได้รับงบประมาณจากหน่วยงานใด และ 3.ขอให้ติดตั้งสัญญาณ เครื่องมือสื่อสารในพื้นที่บ้านตระ หากมีผู้กระทำผิดหลบหนีเข้าไป คนในพื้นที่รู้และติดต่อสื่อสารเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้
นายล่อง กล่าวว่า ชาวบ้านตระได้รับความเดือดร้อนมาก ทำมาหากินไม่เป็นปกติสุข ชาวบ้านได้รับอุบัติเหตุจากการใช้เส้นทางดังกล่าว ชาวบ้านต่างหวาดกลัวตื่นตระหนกต่อชีวิตความเป็นอยู่ รวมไปถึงชาวมันนิบนเขาบรรทัดด้วย จึงได้ยื่นหนังสือเพื่อให้พิจารณาถึงข้อเรียกร้องของชาวบ้าน และพร้อมจะไปทวงถามในวันที่ 28 พ.ย.นี้กับจังหวัดถึงความคืบหน้าต่อไป
ด้านนายทรงกลด กล่าวกับชาวบ้านว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของอุทยานฯ และกรมป่าไม้ ซึ่งกรมป่าไม้คือพื้นดินชั้นล่างสุด เพราะฉะนั้นเมื่อทำโครงการอะไรต้องขออุทยานก่อน เสร็จแล้วไปขอป่าไม้ โดยคณะกรรมการขออนุญาตใช้พื้นที่ โดยการจะมาซ่อมแซมอะไรนั้น ตามกฎหมายบอกว่าห้ามทำการสัญจร ดังนั้น การที่จะมาซ่อมเส้นทาง หากได้รับผลกระทบจากการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการได้ โดยเราจะแสวงหางบประมาณให้ แต่ในส่วนการดำเนินการขณะนี้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ซึ่งตรงนี้ตนรับปากว่าจะไปหาช่องทาง
ส่วนการดำเนินการต้องให้กรมป่าไม้ดำเนินการ ซึ่งช่วยกันหลายฝ่าย และตอนนี้เป็นห่วงเรื่องความเป็นอยู่ของชาวบ้านในเรื่องโรคภัยไข้เจ็บที่มากับฝน ให้หน่วยงาน พม.เข้ามาดูแลด้วย