ตรัง - สมาชิกพรรค ปชป.เก่าแก่สายตรัง หนุน “อภิสิทธิ์” รีเทิร์นนั่งหัวหน้าพรรค เชื่อฟื้นฟูพรรคได้ เผยรอบนี้น่าจบ เพราะผู้ใหญ่เคลียร์กันแล้ว ไม่รังเกียจคู่แข่งหากซื่อสัตย์สุจริต ปูดล่ม 2 ครั้งที่ผ่านมา ใช้เงินซื้อกันอุตลุด จี้แก้ข้อบังคับพรรคเสียง ส.ส.ต้องไม่ใหญ่กว่าเสียงสมาชิก
วันนี้ (16 พ.ย.) ที่ จ.ตรัง นางอรทิภา เทพชู อายุ 62 ปี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มากว่า 20 ปี ในฐานะหนึ่งในตัวแทนออกเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคจาก จ.ตรัง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะสมาชิกพรรค ตนคาดหวังกับการเลือกหัวหน้าพรรค ปชป.ในครั้งที่ 3 นี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคยังไม่ได้แจ้งวันและเวลา คงต้องรอให้รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชุมเพื่อกำหนดวันเลือกหัวหน้าพรรคก่อน ทั้งนี้ สมาชิกคาดหวังอยากให้ได้หัวหน้าพรรคโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้คาราคาซังมานานแล้ว จริงๆ แล้วพรรค ปชป.ไม่น่าจะเป็นอะไร ถ้าไม่มีความขัดแย้งกันภายใน หากไม่แตกแยกกันคงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ กลุ่มสมาชิกที่เหนียวแน่นยังคงมีความศรัทธาอยู่ ยังมีกลุ่มที่เชียร์พรรคอยู่
“ยอมรับว่ามีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา มีเงินมาซื้อ ก่อนจะไปประชุมครั้งแรก ก็มีข่าวกระบวนการต่างๆ เกิดขึ้น ซึ่งการประชุมล่มมา 2 ครั้งแล้ว เพราะไม่ครบองค์ประชุม แกนนำทั้งสองฝั่งควรตกลงกันให้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะล่มซ้ำรอยเดิม สิ่งที่สมาชิกพรรครู้สึกในปัจจุบัน คือ สมาชิกส่วนมากไม่สามารถออกไปแสดงความเห็นได้ และข้อบังคับพรรคที่ให้การออกเสียงในสัดส่วน 70:30 โดย ส.ส.มีสัดส่วนออกเสียงเลือกหัวหน้าพรรคมากกว่าสมาชิก เทียบแล้ว ส.ส. 1 คน เท่ากับพวกเรากว่า 30 คน มันเป็นการมองข้ามเสียงของสมาชิก และสมาชิกพรรค โดยเฉพาะสายภาคใต้ยังคาดหวังให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค จึงจะแก้ไขปัญหาปัญหาในพรรคได้ และฟื้นฟูพรรคกลับมาได้” นางอรทิภา กล่าว
นางอรทิพา กล่าวอีกว่า ดังนั้นการแก้ปัญหาในพรรคที่สำคัญ คือ การแก้ไขระเบียบข้อบังคับของพรรค ประชาชนในภาคใต้เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์กลับมา และตอนนี้มองว่านายอภิสิทธิ์เหมาะสมที่สุด ส่วนอีกรายที่เป็นคู่แข่ง เราไม่ได้รังเกียจอะไร ถ้าเขายึดมั่นในแนวทางร่วมกันดั้งเดิมของพรรค ในเรื่องไม่ใช้เงิน ไม่ซื้อเสียง และมีความซื่อสัตย์สุจริต อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้ข่าวแว่วๆ ว่ามีการเคลียร์ภายในกันแล้ว คงจะไม่ล่มอีก ถ้ารอบนี้ล่มอีก ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับพรรคอย่างแน่นอน และส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพรรค ตนยืนยันยังคงอยู่ร่วมกับพรรค ยังคงศรัทธาต่อพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป