พัทลุง - “ไอ้หมี” สุนัขคู่หูหนึ่งเดียวของ “เสี่ยแป้ง” ก่อนยิงปะทะเจ้าหน้าที่ ล่าสุดย้ายฝั่งเดินลงเขามาอ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง พร้อมกับตำรวจชุดแดนไทย 54
วันนี้ (13 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแดนไทย 54 ที่ขึ้นเข้าไปในป่าลึก ถึงจุดที่ตำรวจยิงปะทะกับเสี่ยแป้ง ได้สับเปลี่ยนกำลังเดินลงมายังพื้นราบ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่อยู่กลางป่าต่อเนื่องมาแล้ว 3 วัน ได้เดินทางลงมาที่อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง จำนวน 12 นาย และทางเจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขที่ชื่อ “ไอ้หมี” สุนัขพันธุ์ไทย ที่พักอยู่กับเสี่ยแป้งในวันที่มีการยิงปะทะกับตำรวจ เดินทางกลับลงมาด้วย เป็นสุนัขสีน้ำตาลดำ และมีลักษณะขาหลังพิการ ขาด้วนตรงข้อตีนข้างขวา สำหรับสุนัขตัวนี้หลังจากที่เสี่ยแป้งหนีไปแล้ว ได้เข้ามาสนิท และอยู่กับตำรวจตั้งแต่วันที่เสี่ยแป้งวิ่งหนีไป
สำหรับ “ไอ้หมี” สุนัขตีนด้วนตัวที่มีข่าวระบุว่าได้เห่าส่งเสียงให้เสี่ยแป้งรู้ตัว และคว้าปืนยิงเข้าใส่ตำรวจนั้น ก่อนหน้านี้เป็นสุนัขที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้สำหรับล่าสัตว์ในป่าเขาบรรทัด แต่ขณะที่เจ้าของนำไอ้หมีเข้าป่าไปล่าหมูป่า และหาตัวนิ่ม พร้อมกับสุนัขตัวอื่นอีก 2 ตัว แต่บังเอิญว่าขณะวิ่งไล่หมูป่าใกล้น้ำตกในเขต จ.สตูล ไอ้หมีแต่เดิมเป็นสุนัขที่สมบูรณ์ ไม่ได้เป็นสุนัขพิการแต่อย่างใด แต่ในวันที่เข้าป่าไปหาสัตว์กับเจ้าของไอ้หมีได้หายตัวไป และไม่ได้เดินกลับบ้านอย่างทุกวัน เจ้าของตามหาแต่ไม่พบตัว
จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อน ไอ้หมีได้เดินเข้าไปในบ้านตระในลักษณะข้อเท้าขวาขาด ยังมีบาดแผล และชาวบ้านสันนิษฐานว่า ไอ้หมีวิ่งไล่หมูป่าไปจนกระทั่งติดแร้วดักสัตว์ของชาวบ้านที่ดักไว้รอบๆ บ้านตระ และไอ้หมีดิ้นจนกระทั่งมีบาดแผลเน่าเปื่อย และข้อเท้าหลุดจนเป็นหมาพิการ ก่อนที่จะมาอยู่กับชาวบ้านในบ้านตระ เมื่อมาพบกับทีมของเสี่ยแป้ง ไอ้หมีก็เดินตามเข้าป่า จนกระทั่งไปพักอยู่กับเสี่ยแป้ง ที่เพิงพักกลางป่า กระทั่งมีเสียงปืนยิงต่อสู้กันต่างคนต่างวิ่งหนีเข้าป่า และไอ้หมีกลับออกมาอยู่กับตำรวจชุดแดนไทย 54 ชุดที่ปะทะกับเสี่ยแป้ง เมื่อกำลังมีการสับเปลี่ยน ไอ้หมีคู่หูของเสี่ยแป้งก็เดินตามเจ้าหน้าที่ลงมาอ่างเก็บน้ำเขาหัวช้างด้วยดังกล่าว