ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - น้ำป่าจากเทือกเขาน้ำค้างไหลท่วมหมู่บ้านน้ำลัด ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา จมเกือบทั้งหมู่บ้านจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่ทหารและฝ่ายปกครองเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากที่ได้เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้ในวันนี้ได้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาน้ำค้างชายแดนไทย-มาเลเซีย ไหลบ่าทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านน้ำลัด ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 2 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา เกือบทั้งหมู่บ้านประมาณ 400 ครัวเรือน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ลำคลองได้รับผลกระทบหนักสุดราว 50 ครัวเรือน น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน นอกจากนี้ น้ำยังได้ท่วมถนนภายในหมู่บ้าน มัสยิดและโรงเรียน รวมทั้งพื้นที่การเกษตรเช่น สวนยาง และสวนผลไม้ของชาวบ้าน
โดยน้ำป่าจากเทือกเขาน้ำค้างเริ่มไหลเข้าท่วมหมู่บ้านน้ำลัดตั้งแต่เวลา 02.00 น. เมื่อคืนนี้ และบางจุดระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร และไหลเชี่ยว ชาวบ้านต้องขนทรัพย์สินขึ้นไปไว้ที่สูง รวมถึงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ต้องนำไปจอดไว้ตรงจุดที่น้ำท่วมไม่ถึงและสัตว์เลี้ยง เช่น วัว แพะ ที่ต้องพาไปล่ามไว้ในที่สูงจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านยังปลอดภัย ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด
และทางเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารราบที่ 5021 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ผู้นำท้องถิ่น และฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา ได้ลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ได้รับผลกระทบหนักมีอย่างน้อย 50 หลังคาเรือน ทั้งช่วยขนย้ายสิ่งของไปไว้ที่สูง และอพยพชาวบ้านในกรณีที่จำเป็นต้องออกจากบ้าน
สำหรับพื้นที่บ้านน้ำลัด เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำด่านแรกที่ไหลมาจากเทือกเขาน้ำค้างชายแดนไทย-มาเลเซีย สำหรับมวลน้ำที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านน้ำลัด จะไหลต่อไปพื้นที่ท้ายน้ำ เช่น ต.ปริก และ ต.ท่าโพธิ์ ซึ่งมีการแจ้งเตือนให้ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมหมู่บ้านน้ำลัดหากไม่มีฝนตกซ้ำบนเขาน้ำค้าง น้ำจะท่วมขังกินเวลายืดเยื้อราว 2-3 วันกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเพราะเป็นที่ลุ่มแอ่งกระทะ