xs
xsm
sm
md
lg

(มีคลิป) ทุนใหญ่ส่วนกลางรุกหนัก ยกขบวนกันมาลงทุนอสังหาฯ ภูเก็ต ทั้งบ้าน-คอนโดฯ ผุดเป็นดอกเห็ด เจาะตลาดไทย-ต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทุนส่วนกลางเคลื่อนไหวไม่หยุด รุกตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต รายเก่ารายใหม่พาเหรดกันขึ้นโครงการทั้งบ้าน คอนโดฯ ผุดเป็นดอกเห็ด ทั่วเกาะภูเก็ต เจาะลูกค้าคนไทย และต่างชาติระดับลักชัวรี เชื่อในศักยภาพภูเก็ตและมั่นใจตลาดโตไม่หยุดไปจนถึงปีหน้า




ในช่วง 1- 2 ปี ที่ผ่านมา หลังโควิดจางหาย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รุ่งพุ่งกระฉูดตามการท่องเที่ยวมาติดๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจอสังหาฯ ในภูเก็ตนั้นจะพุ่งหรือซบต้องพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อท่องเที่ยวฟื้นตัว นักท่องเที่ยวกลับเข้ามา ทำให้เศรษฐกิจภูเก็ตฟื้นตัว กำลังซื้อกลับมา คนจากนอกพื้นที่กลับเข้ามาทำงาน รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาอยู่ในภูเก็ตแบบระยะยาว ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามตัวเลขและรายได้จากการท่องเที่ยว ที่ปีนี้คาดว่าจะกลับเข้ามาไม่ต่ำ 80% ของช่วงก่อนเกิดโควิดระบาด และ 8 เดือนแรกของปีนี้ ภูเก็ตโกยรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 3.7 แสนล้านบาท ในขณะนี้ภาพรวมการจองห้องพักล่วงหน้าช่วงไฮซีซันนี้ดีสุดๆ โรงแรมบางแห่งที่อยู่ในทำเลติดริมชายหาด ห้องพักถูกจองเต็มหมดแล้วก็มี


ซึ่งจะเห็นได้จากหลังโควิดระบาด มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบที่เป็นบ้านจัดสรร พลูวิลล่าในระดับลักชัวรี และแนวสูงในส่วนของคอนโดมิเนียมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในหลายทำเลทั่วทั้งเกาะภูเก็ต ทั้งเจาะตลาดคนไทยและคนต่างชาติ โดยเฉพาะพูลวิลล่าในระดับลักชัวรีที่เจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติได้รับการตอบรับดีมาก เรียกว่าสร้างกันไม่ทันทีเดียว ในช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงปี 2566 นี้ โดยมีลูกค้ากลุ่มหลักเป็นชาวรัสเซีย ที่หนีสงครามมาซื้อพูลวิลล่า และที่พักต่างๆ ในภูเก็ต

ทำให้กลุ่มทุนใหญ่จากส่วนกลาง ทั้งที่เป็นเจ้าเดิมที่ครองตลาดในภูเก็ตอยู่แล้ว เช่น แสนสิริ ศุภาลัย และรายใหม่พาเหรดกันเข้ามาลงทุนด้านอสังหาฯ ในภูเก็ต เปิดทั้งคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรรมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทุนท้องถิ่นในภูเก็ตเอง เจ้าใหญ่ทั้งภูเก็ตวิลล่า โบ๊ทพัฒนา เดอะริช และรายอื่นๆ เปิดตัวโครงการใหม่ๆ และที่สำคัญแต่ละโครงการที่เปิดขายนั้นได้รับการตอบรับดีมาก ยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

นายเมธาพงศ์ อุปัติฤศงค์ นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต
นายกสมาคมอสังหาฯ ภูเก็ต มั่นใจตลาดอส้งหาฯ ภูเก็ตโตต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า

นายเมธาพงศ์ อุปัติฤศงค์ นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ระบุว่า การลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตค่อนข้างดีในปี 2566 นี้ จากที่ท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวกลับมา จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่าน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 10 ล้านคน และไตรมาสที่ 4 นี้ คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อท่องเที่ยวฟื้น กำลังซื้อจะฟื้นตามมาด้วย ทั้งในส่วนของตลาดคนไทยที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว เช่น พนักงานโรงแรม ประชาชนทั่วไป รวมถึงตลาดชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในระยะยาว ซึ่งมีทั้งซื้อ และเช่าระยะยาว

“ทุกคนมั่นใจว่าอสังหาริมทรัพย์ยังไปได้ดี เนื่องจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นกลับมา และในช่วงโควิดที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาฯ ลดลงไปจำนวนมาก เมื่อโควิดคลี่คลายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงโควิดมีการอั้นการซื้อบ้านจัดสรร หรือคอนโดฯ ไว้ ทำให้ยอดการซื้อขายในช่วงไตมาส 2 และไตรมาส 3 ของปีนี้ กลับมาดีกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดแล้ว” นายเมธาพงศ์ กล่าวและว่า

รวมถึงศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองที่น่าลงทุน เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นในต่างประเทศ ชาวต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาลงทุน หรืออาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น สังเกตได้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ และ เช่าระยะยาว คือ ตลาดรัสเซีย และจนถึงขณะนี้ยังมีการเข้ามาอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะยอดจะขึ้นๆ ลงๆ แต่เชื่อว่าช่วงปลายปีจนถึงต้นปีนี้ กลุ่มนี้ยังเข้ามาซื้ออสังหาฯ ในภูเก็ต


นายกสมาคมอสังหาฯ ภูเก็ต ระบุอีกว่า ในปี 2566 นี้ พบว่ามีกลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น เช่น แสนสิริ ที่ทยอยเปิดตัวโครงการหลายแห่ง รวมทั้งศุภาลัยที่เข้ามาลงทุนในแนวราบ นอกจากนั้น ยังมีออริจิ้น ที่เข้ามาจับตลาดนักลงทุน และตลาดท่องเที่ยว ส่วนตลาดพูลวิลล่า จะมีในส่วนของโบทานิก้า และอื่นๆ อีกหลายราย ขณะที่กลุ่มทุนท้องถิ่นยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น ภูเก็ตวิลล่า โบ๊ทพัฒนา เดอะริช แต่การเปิดตัวของกลุ่มท้องถิ่นได้มีการปรับตัวทำโครงการให้มีขนาดเล็กลง ถ้าเป็นอาคารชุดจะอยู่ที่ 500-800 ยูนิตต่อโครงการ ส่วนบ้านจะไม่เกิน 180 ยูนิต และถ้าเป็นลักชัวรีมีแค่ 8-30 หลังเท่านั้น

ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีหน้า เชื่อว่าน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ และดีกว่าปี 2566 แน่นอน มาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการเติบโตของการท่องเที่ยว การส่งเสริมของรัฐบาล รวมทั้งการสนับสนุนในเรื่องของระบบสาธารณูปโภค เพื่อเติมเต็มให้จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวส่งให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตโตขึ้น นอกเหนือจากปัจจัยความต้องการที่อยู่อาศัยของคนในพื้นที่ และชาวต่างชาติ มั่นใจว่า ปีหน้าอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตโตขึ้นอย่างแน่นอน

นายชวกร เพ็ชรสลับแก้ว ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานโครงการภูมิภาค 3 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
ทุนใหญ่จากส่วนกลางแข่งขันเปิดตัวทั้งบ้านและคอนโดฯ เจาะตลาดคนไทยและระดับลักชัวรี

ทุนใหญ่จากส่วนกลางเปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเจ้าเก่าเจ้าเดิม อย่างแสนสิริ และศุภาลัย ที่ครองตลาดคอนโดฯ และบ้านจัดสรรในภูเก็ตมายาวนาน อย่าง “ศุภาลัย” เปิดเกมรุกชิงความเป็นเจ้าตลาดแนวราบทันที ส่งทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม เจาะตลาดคนไทย เปิดตัวโครงการใหม่รับตลาดอสังหาฯ ฟื้นอย่างต่อเนื่องไปแล้วถึง 3 โครงการ เดิมจาก “ศุภาลัย เลค วิลล์ ภูเก็ต” เป็นโครงการขนาดใหญ่ ยึดทำเลทองพื้นที่เกาะแก้ว บนพื้นที่กว่า 102 ไร่ มูลค่าโครงการสูงถึง 2,600 ล้านบาท ตามติดมาด้วย “ศุภาลัย วิลล์ รัษฎา ภูเก็ต บนพื้นที่ 14 ไร่ ในพื้นที่ ต.รัษฎา ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 76 ครอบครัว มูลค่าโครงการ 416 ล้านบาท และล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เปิดตัว “ศุภาลัย วิลล์ วิชิต ภูเก็ต” ซอยสุขนิรันดร์ ต.วิชิต กว่า 150 ยูนิต ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท

นายชวกร เพ็ชรสลับแก้ว ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานโครงการภูมิภาค 3 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บอกว่า ทุกโครงการของศุภาลัยที่เปิดตัวมา 3 โครงการ หลังโควิดระบาด ได้รับการตอบรับดีมาก ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เช่น โครงการศุภาลัย เลค วิลล์ เกาะแก้ว ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว ถึงขณะนี้สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท โครงการ ศุภาลัย วิลล์ รัษฎา เปิดขายมา 3 เดือน ยอดขายกว่า 150 ล้านบาท และโครงการ ศุภาลัย วิลล์ วิชิต ภูเก็ต ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 28-29 ต.ค.ที่ผ่านมา ยอดจองเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้


ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมีสูงจากความต้องการที่อั้นมาจาช่วงโควิด และเมื่อท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว กำลังซื้อก็กลับมา และเมื่อบวกกับความเป็นแบรนด์ศุภาลัย ที่ลูกค้าเชื่อมั่น คุณภาพและมาตรฐานของบ้านที่เราสร้าง ราคาที่เหมาะสม และทำเลที่ดี ทำให้โครงการของศุภาลัยได้รับการตอบรับดีทุกโครงการ

“เรามั่นใจว่าอสังหาฯ ภูเก็ตจะเติบโตอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า จากท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อรวมกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังจะเข้ามาลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในภูเก็ตด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นแรงส่งให้อสังหาฯ โตขึ้นไปอีก ซึ่งในส่วนของศุภาลัยนั้นเราไม่หยุดการลงทุน ในปี 2567 นี้ เราได้วางแผนและเตรียมที่จะเปิดโครงการต่อเนื่องอีก 2-3 โครงการ ทั้งบ้านจัดสรร และคอนโดฯ เพราะเรามั่นใจในศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ที่เราเข้ามาพัฒนาโครงการถึง 17 ปีแล้ว” นายชวกร กล่าวในที่สุด


เช่นเดียวกับเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ต อย่าง “แสนสิริ” รุกตลาดคอนโดฯ ทันทีเหมือนกัน เพราะมั่นใจในการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ต ที่คาดว่าจะโตอย่างต่อเนื่อง ประเดิมรอบใหม่ด้วยการส่ง “ดีคอนโด รีฟ ภูเก็ต” กว่า 700 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,300 ล้าน ปักหมุดทำเลในกะทู้ ที่สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งเข้ามาในตัวเมืองและไปหาดป่าตอง ในราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้าน เจาะตลาดคนไทยที่ต้องการที่อยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุน เมื่อช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา

และเพื่อเป็นการตอกย้ำความต้องการที่อยู่อาศัยที่เป็นคอนโดฯ ในภูเก็ต เมื่อเร็วๆ นี้ แสนสิริได้แถลงข่าวเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ "เดอะ เบส บูกิต" อีก 609 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,620 ล้านบาท บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น 3 อาคาร โครงการนี้ชูจุดขายคอนโดฯ ใหม่ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต อยู่ติดถนนวิชิตสงคราม ตรงข้ามแม็คโคร ภูเก็ต และอยู่ห่างจากเซ็นทรัลเพียง 550 เมตร สามารถเดินหรือนั่ง Shuttle Service ของโครงการก็ได้ หรือขับรถเพียง 15 นาที สามารถเดินทางไปย่านเมืองเก่าภูเก็ต หาดป่าตอง ได้สะดวก นอกจากนี้ โครงการยังอยู่ใกล้สถานศึกษา ทั้งโรงเรียนนานาชาติ ภูเก็ต โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย

นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 มีแนวโน้มการฟื้นตัวในทิศทางที่ดี เห็นได้จากความสำเร็จจากยอดขายคอนโดมิเนียม "ดีคอนโด รีฟ ภูเก็ต" มียอดขายกว่า 60% นอกจากนี้ จากศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตที่แข็งแกร่ง จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของประเทศ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วจากแผนลงทุนเมกะโปรเจกต์ ทั้งการขยายสนามบินภูเก็ต แผนการคมนาคมทั้งถนนและระบบราง แผนการสร้างท่าเรือสำราญขนาดใหญ่และท่าเรือท่องเที่ยวภูมิภาคอ่าวปอ รวมถึงการเติบโตของเมืองภูเก็ต ทั้งการขยายตัวของโรงเรียนนานาชาติ และ Medical Hub ที่ทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวศักยภาพที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และมั่นใจว่าตลาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า


นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มทุนจากส่วนกลางอีกหลายรายที่เข้ามาลงทุนในภูเก็ต เพราะเชื่อในศักยภาพการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกของภูเก็ต เช่น บริษัท ออริจิ้น อีอีซี จำกัด ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) จับมือกับบริษัท ภูเก็ตวิลล่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ดิ ออริจิ้น กะทู้-ป่าตอง (The Origin Kathu-Patong) บนที่ดินขนาด 10 ไร่ ใกล้หาดป่าตอง

กลุ่มโซเคน ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป เข้ามาลงทุนทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดตัวโครงการบ้านหรูระดับ Luxury ไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ต กับโครงการ Crown Estate Dulwich Road ในราคาเริ่มต้น 8-12 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม “เดอะ คิวบ์ อะเมซ ศรีสุนทร” The Cube Amaze Srisoonthon บนเนื้อที่ 3 ไร่เศษ 386 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 740 ล้านบาท

“กลุ่มอาณา ดีเวลอปเมนท์” ผู้นำธุรกิจพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพ ด้วยประสบการณ์การพัฒนาโครงการกว่า 17 ปี ทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ต ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม ทาวโฮม และธุรกิจโรงแรมกว่า 10 โครงการ เล็งเห็นโอกาสการฟื้นตัวของธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตชัดเจน เปิดตัวโครงการสเปซ เชิงทะเล “SPACE CHERNGTALAY” คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด ห้องชุด 170 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ชูจุดขาย “To Live Leisurely” เพื่อตอบโจทย์ “การอยู่อาศัยสบายๆ อย่างลงตัว” เหมาะกับทั้งการอยู่อาศัยเอง และการลงทุนเพื่อรองรับตลาดปล่อยเช่าต่อกับกลุ่มลูกค้าไทยและต่างชาติ เนื่องจากอยู่ในใจกลางย่านเชิงทะเล แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและมีความต้องการที่อยู่อาศัยสูงมากของภูเก็ต


และล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ต.ค.นี้ บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมในกรุงเทพฯ และพัทยา ได้เปิดตัวเข้ามาลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ในภูเก็ต ที่เป็นโครงการระดับลักชัวรีที่เป็นพูลวิลล่าและคอนโดมิเนียมพร้อมกัน 2 โครงการ บริเวณหาดบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มูลค่าโครงการกว่า 2,800 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการ “ไฮแลนด์ ปาร์ค เรสซิเดนซ์” เป็นพูลวิลล่าระดับลักชัวรี จำนวน 21 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท และโครงการ แคสแคด หาดบางเทา คอนโดมิเนียมลักชัวรีโลว์ไรส์ มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท จำนวน 40 ยูนิต ราคาเริ่มตนที่ 15.5 ล้านบาท

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ที่ตัดสินใจขยายการลงทุนมาภูเก็ต เพราะมั่นใจในศักยภาพการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกของภูเก็ต และมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในระดับลักชัวรีในภูเก็ตยังมีความต้องการต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ที่เป็นกลุ่มรัสเซีย ยูเครน และยุโรป และโดยเฉพาะในพื้นที่หาดบางเทา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชาวชาติได้เป็นอย่างดี เพราะมีความพร้อมทั้งในเรื่องของชายหาด ร้านอาหาร บีชคลับ ศูนย์การค้า และอื่นๆ

“แนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตระดับลักชัวรียังมีสูงในกลุ่มของชาวต่างชาติและมองว่าตลาดกลุ่มนี้ทั้งวิลล่าและคอนโดยฯ ยังไปได้ดี ยังไม่โอเวอร์ซัปพลาย โดยเฉพาะในทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ” นายชนินทร์ กล่าว


ทุนท้องถิ่นสู้ไม่ถอย เปิดตัวแข่งทุนใหญ่จากส่วนกลาง

ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นในภูเก็ตเอง รุกตลาดไม่แพ้ทุนจากส่วนกลาง เปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทั้งแนวราบและแนวสูง เช่น กลุ่มโบ๊ทพัฒนา ของ “บุญ ยงสกุล” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของภูเก็ต ประกาศบุกตลาดคอนโดฯ จากที่ก่อนหน้าที่กลุ่มโบ๊ทพัฒนาจะลงทุนในส่วนของบ้านแนวราบเป็นหลัก ประเดิมโครงการแรก “ดิ อควา” คอนโดฯ หรูระดับลักชัวรี ริมทะเลสาบย่านเชิงทะเล มูลค่า 1,200 ล้าน เจาะลูกค้าระดับบนทั้งคนไทยและต่างชาติ “กลุ่มเดอะริช” ที่เจาะตลาดบ้านจัดสรรเน้นลูกค้ากลุ่มระดับกลางลงมา ได้รับการตอบรับดี เปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง


เช่นเดียวกับกลุ่ม “โบทานิก้า” ที่เป็นกลุ่มทุนท้องถิ่นภูเก็ต เจาะตลาดพูลวิลล่าระดับลักชัวรี เน้นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระยะยาว เลือกทำเลที่คนต่างชาตินิยม เช่น ย่านรายัน เชิงทะเล ผุดโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2565 ต่อเนื่องต้นปี 2566 ตลาดพูลวิลล่าโตแบบก้าวกระโดด จากความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวรัสเซียที่ต้องการหนีสงคราม รวมไปถึงคนในยุโรป เป็นต้น ทำให้แต่ละโครงการสามารถขายได้หมดปิดโครงการในเวลาอันรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม กลุ่มทุนจากส่วนกลางและท้องถิ่นเชื่อมั่นว่า ตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า หากไม่มีปัจจัยใดๆ ที่จะทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตชะลอตัว โครงการอสังหาฯ ในภูเก็ตจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนักลงทุนรายเดิมและนักลงทุนรายใหม่จากส่วนกลาง ที่มุ่งหน้าสู่ภูเก็ตเพื่อแบ่งเค้กก้อนนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น