ตรัง - อดีตผู้ใหญ่แจ้ง ยุคปราบคอมมิวนิสต์ เผย “บ้านตระ” โจรดังในตำนานภาคใต้กบดานเพียบ ถูกสาปเป็นหมู่บ้านอาถรรพ์ ต้องเซ่นไหว้ “ทวดเล็ก” เปิดป่าล่า “เสี่ยแป้ง” สอนเจ้าหน้าที่รบในเมืองกับในป่ามันต่างกัน ฝาก มท.1 เปิดทางร่วมฝ่ายปกครองในพื้นที่ไล่ล่า
นายแจ้ง แสงกุล อายุ 68 ปี หรืออดีตผู้ใหญ่แจ้ง ที่เคยได้รับฉายา "ผู้ใหญ่สุลต่าน" อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านตระ หมู่บ้านเล็กๆ บนเขาบรรทัด พื้นที่หมู่ 2 ต.ปะเหลียน จ.ตรัง พื้นที่ปะทะ และกบดานของ นายชวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นักโทษแหกคุก ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นผู้ใหญ่บ้านมาตั้งแต่ปี 2530 ได้บุกเบิก และได้ตั้งชื่อให้ว่า "บ้านตระ" แบ่งการปกครองชุมชนเป็น 5 โซน มีหัวหน้าโซนดูแลแต่ละโซน และตนยังมีตำแหน่งเป็นประธานชุมชนบ้านตระ ตนเป็นผู้บุกเบิกบ้านตระเป็นคนแรก มีการตั้งร้านค้าสหกรณ์ชุมชน การจะปกครองแบบกึ่งระบบทหาร กึ่งการปกครอง แต่ตนจะวางตัวเป็นพ่อที่ดีของลูกบ้าน แต่กับโจรผู้ร้ายตนจะวางตัวเป็นนักต่อสู้ บ้านตระเป็นหมู่บ้านแห่งตำนานลี้ลับ ขุนโจรภาคใต้ในอดีต ตั้งแต่ "โจรนายดำหัวแพร" หรือ "โจรมหาจันทร์" อยู่ที่บ้านตระมาก่อนที่ตนจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านตระเป็นหมู่บ้านปิด เป็นหมู่บ้านที่ถูกทอดทิ้งจากเจ้าหน้าที่
อดีตผู้ใหญ่แจ้ง กล่าวอีกว่า ตนเคยเป็นอดีตทหารพราน กรมทหารพราน 42 ซึ่งมีเพียงกองร้อยเดียวใน จ.ตรัง ส่วนตัวทราบว่าเสี่ยแป้ง เคยเป็นทหารพราน แต่เขาอยู่คนละกรมกับตน และบ้านตระเคยเป็นฐานของคอมมิวนิสต์ เป็นฐานปฏิบัติการศูนย์ชี้นำที่ 842 ผกค. เรื่องล้อมจับเสี่ยแป้งในพื้นที่บ้านตระ ตนก็ติดตามข่าวสาร ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ต้องจัดการกันเอง เพราะตอนนี้ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านแล้ว ส่วนเรื่องยาเสพติด ซึ่งตอนนี้ระบาดเยอะมาก ระบาดไปทุกที่ ยาเสพติดจะนำมาสู่เงิน อาวุธสงคราม และการทำผิดกฎหมายอื่นๆ ก็ตามมา
อนึ่งตนเคยเป็นทหารพราน ตนจะรู้ช่องทางหลบหนี ตนเคยเดินทางขึ้นไปทางบ้านควนไม้ดำเพื่อตีฐานคอมมิวนิสต์ โดยจู่โจมเข้าพร้อมกันทั้งจากฝั่งพัทลุง และฝั่งสตูล โดยการจะล่าโจรจะต้องเข้าต่อสู้แบบกองโจรจึงสามารถตีแตกได้ ซึ่งบ้านตระขึ้นลงโดยใช้รถจักรยานยนต์ได้ทางนี้ทางเดียว แต่หากเดินเท้าสามารถลงได้หลายเส้นทาง ทิศตะวันออกลงที่ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ทิศเหนือลงที่ป่าดำ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ทิศใต้จะจดกับ อ.ทุ่งหว้า และ อ.มะนัง จ.สตูล
โดยด้านบนของบ้านตระ ตอนที่ตนเคยไปจู่โจมคอมมิวสต์ บนนั้นมีพื้นที่โล่งเตียน ใช้เป็นสนามขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์ ตนเคยไปลงเฮลิคอปเตอร์ตรงจุดนั้น แล้วลาดตระเวนพื้นที่ จนทราบพื้นที่อย่างดี ก่อนเรียกกำลังพลผ่านวิทยุสื่อสารขึ้นปฏิบัติการ ซึ่งจุดที่จอดเฮลิคอปเตอร์กับหมู่บ้าน ห่างกันประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดปะทะกับเสี่ยแป้ง
อดีตผู้ใหญ่แจ้ง กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่บ้านตระไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งตอนที่ตนปกครองจะใช้วิทยุสื่อสารในการสื่อสาร ใครเข้ามาในบ้านตระก็เหมือนถูกตัดขาดจากภายนอกเลย ซึ่งจะมีการติดตั้งศูนย์วิทยุสื่อสารไว้ที่สหกรณ์ และศูนย์วิทยุสื่อสารแม่ข่ายจะอยู่ด้านล่างที่บ้านหลังนี้เลย เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยจะแจ้งลงมายังแม่ข่าย เมื่อทราบข่าวแล้วก็จะใช้รถจักรยานยนต์ไปด้านบนที่บ้านเรือนของชาวบ้าน เมื่อก่อนความร่วมมือของชาวบ้านบ้านตระดีมากๆ หากมีคนในบ้านตระเจ็บไข้ได้ป่วย คนที่บ้านควนไม้ดำด้านล่างจะกางเต็นท์ไว้หน้าบ้าน หุงข้าว หุงปลา คอยดูแลไม่ให้ลำบาก และตอนที่ตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน ตนจัดตั้งให้มี อสม. มีกลุ่มแม่บ้านบ้านตระ
เมื่อก่อนนี้สมัยที่ตนเป็นทหารพราน เป็นผู้ใหญ่บ้าน หากมีเหตุร้าย มีคนไม่ดีเข้ามาในบ้านตระ ตนจะเซ่นไหว้ตามความเชื่อ เป็นการเซ่นไหว้ตามศาสตร์ และพิธีกรรมแบบอิสลาม ไปไหว้ทวดเล็ก ไปตั้งเครื่องเซ่น ขอให้เปิดหู เปิดตา เปิดบ้านเมือง เปิดป่า ทำให้เหตุร้ายคลี่คลายไป
“บ้านตระเป็นบ้านอาถรรพ์ เป็นหมู่บ้านที่ถูกสาปแช่งไว้ว่า ถ้าใครมีปัญหา เป็นโจรผู้ร้ายเข้ามาในนี้จะไม่สามารถอยู่ได้ คนที่เอาเปรียบคนอื่นจะอยู่ไม่ได้ และต้องมีอันเป็นไป เจ้าหน้าที่อาจมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ในส่วนของตนยังเชื่อเรื่องนี้ ตอนตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน ตนตั้งเครื่องเซ่นไหว้ ได้แก่ ข้าวเหลือง ไก่ไม่เหยียบดิน (ไข่ไก่) นำไปตั้งเซ่นไหว้ แล้วขอพรให้ปกครองบ้านตระอย่างราบรื่น ชุมชนอยู่เย็นเป็นสุข สามัคคี ขอเป็นตัวแทนของทวดเล็กนำบ้านตระไปสู่เป้าหมายที่ดีงาม ซึ่งตนเป็นผู้ใหญ่บ้านดูแลบ้านตระมากว่า 20 ปี ลูกบ้านไม่ทะเลาะกันเลย เรื่องลี้ลับของบ้านตระ ใครที่มาเยือนบ้านตระแล้วคิดไม่ดี หรือไม่เชื่อถือจะอยู่ไม่ได้ แต่หากใครที่คิดดีก็จะดีไปเลย และในการปฏิบัติงาน คนที่เป็นทหารของตน ทั้งที่เป็นทหารพราน และผู้ใหญ่บ้าน จะวางเส้นสายในการเข้าไปทำงานตรงนี้ เพราะการรบในป่าไม่เหมือนกับการรบในเมือง และการจับผู้ร้ายในป่าเป็นเสือลำบาก อย่างน้อยก็ต้องสู้ไว้ก่อน หรือเปรียบเปรยว่าหากจะสู้กับโจร เราต้องสู้แบบโจร ต้องหาคนในพื้นที่มาเป็นพวกตนเองให้ได้” อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านตระ ระบุ
อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านตระ กล่าวด้วยว่า สำหรับบ้านตระนั้น ภูมิประเทศจะเอื้อในการเป็นสนามรบ เพราะมันเคยเป็นสนามรบมาก่อน ตั้งแต่ตำนานมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่มีที่กำบัง เหมาะแก่การเป็นพื้นที่สู้รบ และตนขอฝากคำพูดไปยังผู้ที่รับฟังรับชมทุกๆ คน "คนแก่บอกว่าทำตัวให้ดี จะได้ฝากผีฝากไข้ อย่าลืมว่าบ้านตระเป็นหมู่บ้านแห่งตำนาน" ตนอยากฝากถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าให้ท่านขอความร่วมมือจากฝ่ายปกครองในระดับหมู่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชน ถ้าฝ่ายปกครองเขาเอาด้วย ร่วมไม้ร่วมมือกัน เรื่องการล่าเสี่ยแป้งไม่ใช่เรื่องยากเลย และตนขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย ขออย่าให้เกิดการสูญเสียใดๆ กับเจ้าหน้าที่รัฐ และให้สามารถจับกุมตัวเสี่ยแป้งได้ในเร็ววัน