นครศรีธรรมราช - “ทรงชัย วงศ์วัชรดำรง” นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง ป.ป.ช.ชี้มูลข้อหายาวเป็นหางว่าว ศาลทุจริตรับคำฟ้อง แต่ผู้ร้องแปลกใจยังไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังเดินหน้างานจัดซื้อจัดจ้างเอกชน ร้องผู้ว่าฯนครศรีธรรมราชให้เร่งจัดการอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2566 ได้มีผู้ร้องได้เข้าส่งหนังสือร้องเรียน นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มีหัวเรื่องคือ “ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติหน้าที่โดยเคร่งครัด” โดยงานสารบัญศาลาลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงเลขรับ 22542 ลงวันที่ 6 พ.ย.66 เข้าสู่ระบบเดินเอกสารเรียบร้อยแล้ว
โดยสาระสำคัญในหนังสือฉบับนี้ ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูล นายทรงชัย วงศ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง กับพวก ในข้อกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบการทุจริต 2561 หลายมาตราเกี่ยวเนื่อง และเมื่อ 19 กันยายน 2566 สำนักงานอัยการสูงสุดได้นำตัว นายทรงชัย วงศ์วัชรดำรง กับพวกพ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ศาลประทับรับฟ้อง ตามหมายเลขคดีดำที่ อท.57/2566 นายทรงชัย จะต้องมีอันหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามแนวหนังสือ มท.0804 ช.3/ว85 ลงวันที่ 7 ม.ค.2566 เรื่องให้ผู้บริหารท้องถิ่นหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังศาลอาญาทุจริตประทับรับฟ้อง
แต่ปัจจุบัน นายทรงชัย ยังคงทำหน้าที่และรับค่าตอบแทน มิได้หยุดปฏอบัติหน้าที่ จึงแจ้งมายังผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กำกับดูแลเทศบางเมืองทุ่งสง จึงขอให้ 1.กำกับดูแลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมาย และ 2.ให้ดำเนินการตรวจสอบโดยพลัน
ขณะที่ผู้ร้องยืนยันว่าการยื่นหนังสือฉบับนี้สืบเนื่องจากนับแต่ 19 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เกือบ 2 เดือนแล้ว นายทรงชัย ยังคงทำหน้าที่ต่อไป มีการจัดซื้อจัดจ้างไปเป็นจำนวนมากแล้ว จึงเกิดคำถามตามมาว่านิติกรรมสัญญาที่เกิดขึ้น รวมทั้งการลงนามต่างๆ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นโมฆะหรือไม่ การกระทำการดังกล่าวนั้นถือเป็นความผิดหรือไม่ และผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องถือว่าละเลย ละเว้นหรือไม่
สำหรับการชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แจ้งผลการพิจารณาไปยังฝ่ายผู้ร้อง เมื่อ 12 ตุลาคม 2566 หลังจากก่อนหน้าผู้ร้อง ได้ทำหนังสือทวงถามผลการพิจารณาไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2566 โดยสรุปคือ คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นแล้ว มีมติว่าการกระทำของ นายทรงชัย วงศ์วัชรดำรง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 157
ประกอบมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าพนักงานรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172)
ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 และฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.เทศบาล 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 73
และในคดีเดียวกันนี้ ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาถูกชี้มูลอีก 3 ราย คือ นายล้วน บูชากร ผู้ถูกกล่าวที่ 2 นางสดศรี บูชากร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และ หจก.เพื่อสุขภาพทุ่งสง เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีมูลความผิดทางอาญาในฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต โดยคดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8
ส่วนการชี้มูลดังกล่าวนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้จัดส่งไปยังผู้เกี่ยวข้องในคดีทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องทั้งหมด และได้จัดส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐานพร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กับนายทรงชัย และส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งแล้วด้วย และยังแจ้งให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ส่วนความผิดทางอาญา ป.ป.ช.ได้ส่งอัยการสูงสุด และได้มีการส่งฟ้องศาลแล้ว