xs
xsm
sm
md
lg

หนึ่งเดียวในโลก “ลากพระทางน้ำข้ามทะเล” จ.ตรัง ตำนานที่สืบทอดกันมานับ 100 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ชาวบ้านปากปรน ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง สืบสานประเพณี “ลากพระทางน้ำข้ามทะเล” หนึ่งเดียวในโลกที่สืบทอดกันมานับ 100 ปี ถือเป็นงานบุญหลังวันออกพรรษา ระลึกถึงคุณพระแม่คงคา

วันนี้ (6 พ.ย.) ที่ท่าเทียบเรือปากปรน (ชั่วคราว) หมู่ที่ 1 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง นายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอหาดสำราญ นายสมพงษ์ ประภากรสกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหาดสำราญ และ น.ส.ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง พร้อมชาวบ้านอำเภอหาดสำราญ กว่า 500 คน ร่วมประเพณี “ลากพระทางน้ำข้ามทะเล” หนึ่งเดียวในโลก ซึ่งตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11

โดยมีเรือพาย และเรือขบวนกลองยาว จำนวน 9 ลำ พร้อมเรือชาวบ้านที่เข้าร่วมอีกประมาณจำนวน 40 ลำ ร่วมพิธีลากเรือพระทางน้ำเพื่อล่องไปในทะเลตรัง เริ่มจากท่าเทียบเรือบ้านปากปรน เดินทางสู่แหลมจุโหย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยมีระยะทางรวมไปกลับ 10 กิโลเมตร และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งในขบวนเรือพระได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูป และนิมนต์พระสงฆ์นั่งประจำเรือ พร้อมประโคมเครื่องดนตรีโพน กลองยาว ฉิ่ง ฉาบ เพื่อส่งสัญญาณให้จังหวะตลอดช่วงเวลาการลากเรือพระ


นอกจากนั้น ยังมีประเพณีการซัดต้ม และการเกี้ยวพาราสีหยอกล้อระหว่างเรือแต่ละลำ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักและสนุกสนาน รวมทั้งมีการประกอบพิธีลอยเรือเคราะห์กลางทะเล ด้วยการให้ชาวบ้านตัดเล็บ ตัดผมใส่ไว้ในเรือจำลอง ก่อนที่จะลากเรือพระกลับมาหมู่บ้าน และมีการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน การแข่งขันขูดมะพร้าว การแข่งขันชกมวยทะเล เป็นต้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง และเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีพื้นบ้านให้สืบทอดกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนับ 100 ปีแล้ว

สำหรับประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเล นับเป็นประเพณีที่เก่าแก่และยาวนานตามความเชื่อที่ว่า เป็นวันที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จลงมาจากสวรรค์สู่โลกมนุษย์ หลังเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตลอดพรรษา ซึ่งชาวบ้านทั่วไปจะเดินทางไปร่วมงานลากเรือพระทางบก แต่เนื่องจากชาวปากปรนและพื้นที่ใกล้เคียงมีอาชีพทำการประมง วิถีชีวิตจึงเกี่ยวข้องกับแม่น้ำลำคลองและการใช้เรือ ซึ่งในสมัยก่อนการเดินทางโดยทางบกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะทำการประมงกันในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูง หรือน้ำใหญ่ คือ ระหว่างขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 5 ค่ำ และแรม 13 ค่ำ ถึงขึ้น 5 ค่ำ รวมทั้งยังไม่มีวัดอยู่ในหมู่บ้านด้วย ดังนั้น เมื่อที่อื่นๆ มีการลากพระกันในวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 จึงมักไม่มีโอกาสได้เข้าร่วม และเป็นที่มาของการจัดประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเลแทน


นายสมพงษ์ ประภากรสกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหาดสำราญ กล่าวว่า ประเพณีลากพระข้ามทะเลของวัดปากปรน ต.ปากปรน อ.หาดสำราญ จ.ตรัง เป็นประเพณีที่สืบทอดมาเป็น 100 ปี เนื่องจากชาวบ้านปากปรนมีอาชีพทำประมง จับสัตว์ทะเลเป็นอาหารเพื่อการยังชีพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านที่นี่ ดังนั้น ชาวบ้านจึงรวมตัวกัน กำหนดว่าใน 1 ปี จะทำบุญให้พระแม่คงคา จำนวน 1 ครั้ง โดยยึดเอาแรม 8 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี หรือหลังวันออกพรรษา 7 วัน มาทำลากพระข้ามทะเล

ซึ่งประเพณีนี้เป็นประเพณีอันดีงามของชาวบ้านที่อยู่ชายทะเลและประกอบอาชีพประมง โดยชาวบ้านที่อยู่ริมทะเลมีเรือเป็นพาหนะหลักในการลากพระทางน้ำ สำหรับเรือพระชาวประมงใช้เป็นเรือพาย และเรือหางยาวตกแต่งสวยงาม โดยชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันพายเรือลากพระออกกลางทะเล รวมทั้งมีการสะเดาะเคราะห์ชาวบ้านที่มีเคราะห์ร้ายต่างๆ ได้เอาเคราะห์นั้นมาลอยออกสู่ทะเลให้หมดเคราะห์ไป


ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลหาดสำราญ และชาวบ้านอยากสืบสานประเพณีลากพระนี้ ให้สืบทอดต่อไปตลอด โดย อบต.ปากปรนได้สนับสนุนงบประมาณบางส่วน และต่อไปจะผลักดันให้ประเพณีลากพระทางน้ำ เป็นประเพณีระดับจังหวัดให้ได้ และหากทางจังหวัดตรัง วัฒนธรรมจังหวัดตรัง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานตรัง) หรือท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง เข้ามามีส่วนร่วม เชื่อว่างานลากพระทางน้ำจะยิ่งใหญ่กว่านี้ และเป็นประเพณีที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จังหวัดตรัง และตำบลหาดสำราญเป็นเส้นทางท่องเที่ยวได้หลายเกาะสามารถลงเรือจากท่าเรือปากปรน มาเที่ยวเกาะลิบง เกาะเหลาเหลียง หรือจะมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติแหลมจุโหย

นายก อบต.หาดสำราญ กล่าวว่า ทั้งนี้ใกล้ตำบลหาดสำราญมีเกาะที่สวยงาม เกาะตะเกียงมีปลาอาศัยอยู่จำนวนมาก มีปะการังอยู่รอบเกาะ ถัดออกไปจะเป็นเกาะเภตรา ใกล้เคียงกันเป็นเกาะสุกร ตนอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวหาดสำราญ เพราะที่นี่มีดีหลายอย่าง ทั้งธรรมชาติ อาหารทะเลที่ขึ้นชื่ออย่างเช่น ปูม้า หอยตะเภา หอยเจดีย์ หอยหลอด ซึ่งสัตว์ทะเลที่นี่มีรสชาติอร่อย เพราะหาดสำราญเป็นชายหาดปากแม่น้ำ มีน้ำจืดจากแม่น้ำตรัง และแม่น้ำปะเหลียนไหลมาบรรจบกับน้ำเค็มที่หาดสำราญพอดี ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำต่างๆ ส่วนเรื่องสถานที่รองรับนักท่องเที่ยว ที่หาดสำราญมีทั้งที่พักและร้านอาหาร เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม




กำลังโหลดความคิดเห็น