พัทลุง - “บอย” จีระวุฒิ คนส่ง “เสี่ยแป้ง” ที่เขาพับผ้ามอบตัวแล้ว รักษาการ ผบช.ภ.9 รุดสอบด้วยตัวเอง รวมจับได้แล้ว 6 คนจากทั้งสิ้น 8 คน เหลือเพียง “เสี่ยแป้ง” กับ “นายหนอน” รักษาการ ผบช.ภ.9 รับอาจต้องใช้เวลา เหตุ “เสี่ยแป้ง” เชี่ยวชาญในเรื่องของการหลบหนี เผยอาจมีข้อหมายจับเพิ่ม
วันนี้ (28 ต.ค.) เวลา 12.30 น. ตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจในพื้นที่ได้รับการประสานจากทางนายจีระวุฒิ ชุมศรี หรือ “บอย” หรือ “ลูกวัว” ผู้ต้องหาอีกรายที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด ในช่วงขณะที่เจ้าตัวได้ช่วย “เสี่ยแป้ง” หลบหนี เพื่อขอมอบตัวในวัดท่าแค ตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง พื้นที่ใกล้กับบ้านของเสี่ยแป้ง โดยตำรวจได้นำตัวมาที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 (ร้อย ตชด.434) ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อสอบสวนขยายผล พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รักษาราชการแทน ผบช.ภ.9 ได้เดินทางเข้ามาสอบปากคำด้วยตัวเอง ซึ่งนายจีระวุฒิไม่ได้มีสีหน้าเครียดแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนติดต่อขอมอบตัวเข้ามา โดยจากพฤติการณ์ที่มีการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นบุคคลที่เข้าไปช่วยเหลือในการหลบหนี ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวนำตัวเสี่ยแป้ง ไปส่งที่เขาพับผ้า บริเวณรอยต่อ จ.พัทลุงและตรัง ก่อนที่เสี่ยแป้ง และสมุนได้ประสานกับบุคคลที่คาดว่าเป็นคนที่สนิทและเจ้าตัวนับถือเพื่อให้ช่วยเหลือในการหลบหนี หลังจากที่มีการส่งเสี่ยแป้งแล้วเสร็จ ได้มีการแยกย้ายกลับบ้าน ก่อนที่จะมารับตัวภรรยา และลูกทั้งคู่เพื่อหลบหนีไปที่อื่น แต่เมื่อเป็นข่าวค่อนข้างดัง ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกผิดและคิดว่าคงหลบหนีไม่ได้ จึงได้พยายามที่จะติดต่อเข้ามามอบตัว รวมไปถึงไม่มีใครช่วยเหลือเลยต้องจำใจมอบตัว
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่า ขณะที่ในส่วนของบุคคลอื่นนอกเหนือจากที่มีการจับกุมแล้ว ยังพบว่า มีบุคคลเพิ่มเติมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ ตอนนี้มีหมายจับทั้งสิ้น 8 คน รวมกับที่จับกุมไปแล้ว 6 คน เท่ากับว่าเหลือเสี่ยแป้ง กับนายหนอน และรถคันที่หลบหนีเป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค ซึ่งในส่วนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามและจับกุมคาดว่าเจ้าตัวยังคงอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงบ้านเกิด ส่วนกรณีที่มีการหลบหนีไปต่างประเทศ ในส่วนนี้ตนไม่ยืนยันเพราะข้อมูลพบว่ายังคงอยู่ในประเทศไทย
“จากการสอบปากคำเบื้องต้นในส่วนของนายบิ๊ก และนายบอย มีประโยชน์ในการขยายผลเพื่อเชื่อมโยงไปตามตัวของเสี่ยแป้ง ถือว่าข้อมูลสำคัญกับตำรวจ แต่ในส่วนของการตามตัวอาจต้องใช้เวลา เนื่องจากเสี่ยแป้ง เป็นคนที่ค่อนข้างมีเครือข่าย เคยมีประสบการณ์ ค่อนข้างจะเชี่ยวชาญในเรื่องของการหลบหนี ยืนยันไม่หนักใจและคิดว่าคงตามตัวได้ มีการประสานทุกช่องทางที่เชื่อมโยงและมีความเป็นไปได้ว่าเสี่ยแป้งจะหลบหนี” พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากนี้เมื่อมีการสอบสวนเบื้องต้นแล้วเสร็จ จะส่งตัวไปจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากเหตุการณ์และเรื่องราวเกิดขึ้นในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินคดีครั้งนี้ ขณะที่ในส่วนของรถที่ใช้ในการก่อเหตุและหลบหนีอีกหนึ่งคัน ตอนนี้อยู่ในช่วงการตรวจหาพร้อมกับบุคคลที่ขับรถคันดังกล่าว
สำหรับเส้นทางที่เริ่มรับตัวเสี่ยแป้งออกจากโรงพยาบาลที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งหมดเดินทางผ่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ก่อนมุ่งหน้า อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยนายบิ๊ก ได้ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ 4 ประตูสีขาว แยกทางกับเสี่ยแป้ง ตรงสี่แยกไสยวน อ.ควนขนุน ก่อนกลับบ้านใน ต.พญาขันต์ อ.เมือง จ.พัทลุง
ส่วนนายบอย ขับรถยนต์มิตชูบิชิไทรทัน สีขาว ไปส่งเสี่ยแป้ง ที่เขาพับผ้า รอยต่อพัทลุง-ตรัง โดยมีรถเก๋งสีดำยี่ห้อฮอนด้าขับนำหน้า และแยกย้ายกับเสี่ยแป้ง ตรงจุดเขาพับผ้า โดยเสี่ยแป้ง ได้ขึ้นรถยนต์เก๋งอีกคันที่มารอรับตรงจุดดังกล่าวก่อนแยกย้ายกันหนี จากนั้น นายบอย ได้ขับรถต่อเข้า อ.มะนัง จ.สตูล ก่อนวกกลับมาพัทลุง นำรถไปจอดสำนักสงฆ์ แล้วหลบไปพักอาศัยบ้านญาติก่อนเข้ามอบตัว