ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จัดหนัก รรท.ผบช.สตม. ลงภูเก็ต สั่งลุยสางมาเฟียต่างชาติบนเกาะภูเก็ตให้สิ้นซาก เหิมเกริมทำร้ายเจ้าหน้าทึ่ ขณะปฏิบัติหน้าที่ เร่งตรวจสอบ ผลักดันกลับประเทศ พร้อมขึ้นบ้ญชีดำห้ามเข้าประเทศ จับกุมดำเนินคดี 9 ราย ในข้อหาต่างๆ
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รรท.ผบช.สตม.ติดตามความคืบหน้า และรับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์กลุ่มชาวต่างชาติ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าตรวจสอบและจับกุมตามหมายจับ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีการมอบเงินจำนวนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยมี พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.หญิงรังสินันท์ จันทร์เพชร สว.ตม.จว.ภูเก็ต และหัวหน้าชุดจับกุมในวันเกิดเหตุ บรรยายสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
โดย พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ห่วงใยผู้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ได้สั่งการให้มาติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาติดตามสถานการณ์ดังกล่าว และจากที่ได้รับรายงานได้สั่งการให้ดำเนินคดีทั้งอาญา และ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะต่างชาติที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดลักษณะที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งจะต้องถูกเนรเทศออกนอกประเทศ เนื่องจากมีพฤติกรรมก้าวร้าวและเป็นภัยต่อสังคม
ดังนั้น จึงฝากเตือนไปยังชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมดังกล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่มีการปฏิบัติงานตามหน้าที่และระเบียบกฎหมาย ฉะนั้นการแสดงออกที่ไม่พึงประสงค์ หรือไม่ถูกต้องหรือเป็นภัยต่อสังคมจะถุกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งเครัด และจะต้องขึ้นบัญชีดำเพื่อไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีก
“กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว จากการตรวจสอบมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ แม้ว่าจะบาดเจ็บไม่มาก แต่เป็นพฤติการณ์ที่เข้าข่ายขัดขืนการจับกุมและต่อสู้เจ้าพนักงาน เนื่องจากมีกำลังมากกว่า แต่โชคดีที่มีการประสานกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรภาค 8 ส่งกำลังมาสนับสนุน จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด
โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย รวมถึงผู้ที่มีความผิดตาม พ.ร.บ.เข้าเมือง รวมประมาณ 8-9 คน ในจำนวนนี้มีชาวรัสเซีย 1 คน ส่วนคนไทยที่เกี่ยวข้องจะเป็นในส่วนของผู้เป็นเจ้าบ้าน”
พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกนั้น จะต้องมีการบูณราการ และได้บอกไปแล้วว่าการเข้าจับกุมคนร้ายตามหมายจับต่างๆ ซึ่งรู้ตัวว่าเป็นใคร ฉะนั้นจะต้องมีการตรวจสอบกำลังของกลุ่มผู้ต้องสงสัยก่อนว่ามีมากน้อยเพียงใด สถานที่ที่จะเข้าไปดำเนินการเป็นอย่างไร ทางเข้าออกเป็นอย่างไร และจะต้องมีการจัดเตรียมกำลังที่เหนือกว่าจึงจะสามารถคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งได้มีการถอดบทเรียน และได้เน้นย้ำกับชุดปฏิบัติว่า การทำงานครั้งต่อไปจะต้องรอบคอบกว่านี้
ด้าน ผกก.ตม.ภูเก็ต กล่วว่า การดำเนินการควบคุมเกี่ยวกับคนต่างด้าวในพื้นที่ต้องใช้ พ.ร.บ.เข้าเมืองทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งที่พัก หรือการตรวจสอบพฤติกรรมที่เข้าลักษณะต้องห้าม โดยเฉพาะลักษณะของมาเฟียจะต้องไม่มี ส่วนกรณีที่พบว่ามีอาวุธต้องตรวจสอบด้วยว่ามาได้อย่างไร