ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตชด.จับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 1 ราย ทำหน้าที่รับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลาง ลงไปให้กลุ่มผู้ค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยึดของกลางเฮโรอีน 38 แท่ง น้ำหนัก 14 กก. มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท รับสารภาพทำมาแล้ว 3 ครั้ง
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ห้องประชุมพนมไพร ค่ายรามคำแหง ตชด.43 อ.เมือง จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ ตชด.43 และ ตชด.ภาค 4 รวมทั้งทัพเรือภาค 2 ตำรวจน้ำสงขลา ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำโดย พล.ต.ต.สมกูล กาญจนอุดมการณ์ ผบก.ตชด.ภาค 4 พ.ต.อ.ปรีชา วังปรีชา รอง ผบก.ตชด.ภาค 4 และ พ.ต.อ.ยงศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผกก.ตชด.43 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ได้ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นายจำนาญ ไชยฤทธิ์ อายุ 43 ปี พร้อมของกลางเฮโรอีนอัดแท่ง จำนวน 38 แท่ง น้ำหนัก 14 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท รวมทั้งยึดรถเก๋งโตโยต้าคัมรี่ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง นอกจากนี้ ยังมีการขยายผลตรวจยึด และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายนี้อีก 3 รายการ คือ รถเก๋งซูซูกิสวิฟท์ 1 คัน รถยนต์กระบะอีซูซุดีแมคซ์ 1 คัน และสมุดบัญชีเงินฝากอีก 3 เล่ม
สำหรับการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพรายสำคัญคนนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายจำนาญ ไชยฤทธิ์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (เฮโรอีน) และจะทำหน้าที่รับจ้างขนยาเสพติดจากภาคกลาง ลงมาให้กลุ่มผู้ค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในวันที่ 22 ต.ค. คาดว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลางล็อตใหญ่ลงมาอีกล็อต โดยจะใช้รถเก๋งโตโยต้าคัมรี่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 5กศ 4821 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด
ต่อมาชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามรถเป้าหมาย กระทั่งในช่วงเที่ยงของวันดังกล่าว ได้มีรถเก๋งต้องสงสัยคันนี้ขับผ่านมาที่ป้อมจุดตรวจทางหลวง ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อ จ.สงขลา กับจังหวัดตอนบน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว และขอตรวจค้นภายในรถ โดยมีผู้ต้องหาคือ นายจำนาญ ไชยฤทธิ์ เป็นคนขับมาเพียงลำพัง และพบของกลางเป็นเฮโรอีนทั้งหมด จำนวน 38 แท่ง น้ำหนัก 14 กิโลกรัม ที่แอบซุกซ่อนเอาไว้ในช่องลับบริเวณหลังเบาะนั่งด้านหลังคนขับ จึงตรวจยึดเอาไว้ และควบคุมตัวมาสอบสวน
เบื้องต้น จากการสอบถาม นายจำนาญ ให้การยอมรับว่า ตนเองได้รับคำสั่งจาก นายหม่อง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ให้เดินทางไปลำเลียงยาเสพติด (เฮโรอีน) จากพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยตนเองได้ทำมาแล้วก่อนนี้ จำนวน 3 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะได้รับเงินค่าจ้างแท่งละ 10,000 บาท และครั้งนี้ตนเองจะได้รับค่าจ้างในการลำเลียงยาเสพติดเป็นเงิน 380,000 บาท แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่สืบทราบ และจับกุมได้เสียก่อน จึงยังไม่ได้รับค่าจ้างในครั้งนี้
ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน)โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในประชาชนโดยผิดกฎหมาย ด้านเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเผยว่า ยาเสพติด (เฮโรอีน) ที่ถูกจับได้ในครั้งนี้ หากส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านจะมีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านบาท
