xs
xsm
sm
md
lg

โจรแสบบุกฉกเสื้อผ้า-ชุดชั้นในผู้หญิงร้านสะดวกซัก แจ้งตำรวจแล้วยังไร้วี่แววได้ตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช - สุดเอือม! เจ้าของร้านสะดวกซัก อ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยภาพวงจรปิดโจรบุกขโมยเสื้อผ้าลูกค้า ชุดชั้นในผู้หญิงยังไม่เว้น แจ้งความตำรวจแล้วแต่ยังไร้วี่แววได้ตัว

ภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านสะดวกซัก ที่ตั้งอยู่ปากซอยเข้าตำบลท่าซัก ริมถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่เห็นในภาพไม่ใช่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน แต่เป็นคนร้ายที่เข้ามาโจรกรรมเสื้อผ้าของลูกค้าที่นำมาซัก และอบแห้งที่ร้าน มีการเลือกเอาตัวที่มีราคา หลังจากเสร็จตรงนี้ยังไม่พอ ยังไปต่อที่เครื่องอบผ้าที่มีชุดชั้นในของลูกค้าสตรีอยู่ในเครื่องซัก ก่อนเปิดแล้วเลือกเอาไปอีกหลายชุด


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ไม่นาน คนร้ายรายเดียวกันนี้ยังเข้ามาโจรกรรมกางเกงยีนส์ราคาแพงของลูกค้าไปด้วย ทั้ง 2 กรณีได้มีการแจ้งความแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามคนร้าย แม้ว่าเหตุการณ์จะถูกบันทึกด้วยกล้องวงจรปิด และเห็นภาพของคนร้ายได้อย่างชัดเจน

เจ้าของร้านสะดวกซักแห่งนี้ คือนายชัยรัตน์ กรรณมาศ ที่ได้มาลงทุนเปิดร้านสะดวกซักแห่งนี้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เผยว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้งล่าสุดนั้น ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดขึ้น แต่ก่อนหน้าที่เปิดได้ไม่ถึง 2 เดือน คนร้ายได้ก่อเหตุแล้ว ครั้งนั้นกล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ หลังจากที่ถูกเผยแพร่ไปในโซเชียลมีเดีย ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานคนร้ายรายที่ปรากฏในภาพเข้ามาก่อเหตุอีกแบบซ้ำซาก


นายชัยรัตน์ ระบุว่า คนร้ายย่ามใจมาก นำรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน แล้วเดินเข้ามาโดยไม่ได้สนใจกล้องวงจรปิดเลย ก่อเหตุอย่างสบายใจ มีการเลือกอย่างละเอียด และยังแถมเอาชุดชั้นในสตรีไปด้วยอีก 4 ชุด อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายโดยเร็ว เนื่องจากมีความกังวลทั้งผู้ให้บริการ และผู้มารับบริการ ย่านนี้แม้จะอยู่ริมถนนสายหลัก แต่หลังเที่ยงคืนบรรยากาศจะมีคนน้อย อยากให้เจ้าหน้าที่ส่งสายตรวจออกมาเฝ้าระวังกดดันคนร้ายบ้าง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ระบุว่า คดีนี้เจ้าของได้แจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างติดตามสืบสวน มีภาพใบหน้าคนร้ายชัดเจนแล้ว อยู่ในระหว่างการติดตามหาที่อยู่ของคนร้าย โดยคาดว่าน่าจะอาศัยอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ส่วนการก่อเหตุนั้นพบว่าทั้ง 2 ครั้ง ใช้รถไม่เหมือนกัน อาจเป็นการนำรถของเพื่อน หรือคนในครอบครัวมาก่อเหตุ




กำลังโหลดความคิดเห็น