xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เลี้ยงหมูตรังเผยราคาตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี เกษตรกรทนขาดทุนไม่ไหวเลิกเลี้ยงเพียบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยใน จ.ตรัง ต่างประสบปัญหาราคาหมูตกต่ำมากที่สุดในรอบ 20 ปี เพราะค่าอาหารหมูและต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้น แถมยังมีปัญหาหมูเถื่อนทะลัก ทำให้หลายรายต้องเลิกเลี้ยงไปแล้วจำนวนมาก

วันนี้ (19 ต.ค.) น.ส.วันทนีย์ พรมขวัญ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ชาวหมู่ที่ 6 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงหมูมาตั้งแต่รุ่นพ่อนานถึง 32 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จะมีสถานการณ์ดีมาโดยตลอด แต่ล่าสุดนี้ต้องประสบกับปัญหาขาดทุนอย่างหนักในรอบ 20 ปี อันเป็นผลมาจากการที่ราคาอาหารหมูยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ละรุ่นเพิ่มขึ้นประมาณ 25-30 บาทต่อกระสอบ ทำให้มีต้นทุนค่าอาหารหมูตัวประมาณ 4,500-5,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมค่าแรง หรือค่าลูกหมูอีก ทำให้เมื่อนำไปขายจึงต้องประสบกับภาวะขาดทุน

ส่วนสาเหตุหลักเชื่อว่าน่าจะเกิดจากปัญหาหมูเถื่อนที่ทะลักเข้ามา รวมทั้งการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาค่าอาหารหมูของนายทุน ทำให้ราคาหมูที่ขายได้ไม่สมดุลกับราคาค่าอาหาร จึงอยากให้รัฐบาลเร่งเข้ามาแก้ปัญหา เพราะตอนนี้เกษตรกรที่เลี้ยงหมูไม่มีใครอยู่ได้ โดยเฉพาะรายเล็กๆ ที่เลี้ยงด้วยต้นทุนตัวเอง จะขาดทุนหมดทุกราย รวมทั้งช่วยกวาดล้างการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนอย่างจริงจัง เพราะเป็นการทำลายเกษตรกรรายย่อย ทำให้จำนวนมากอยู่ไม่ได้จนต้องเลิกอาชีพนี้ไป

ส่วนการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศราคาหมูหน้าฟาร์มในพื้นที่ภาคใต้ เช่น ให้อยู่ที่ กก.ละ 70 บาท แต่เวลาขายกันจริงๆ จะถูกกดราคาเหลือแค่ กก.ละ 58-59 บาท ซึ่งราคาประกาศที่ กก.ละ 70 บาทนั้น ไม่มีอยู่จริง ทำให้ตนเองต้องนำหมูไปขายแผง ส่งขายงานแต่ง งานศพ งานทั่วไป หรือขายเป็นหมูย่าง ส่วนลูกพันธุ์ก็แบ่งขายให้ญาติๆ ซื้อเอาไปขุนต่อ พร้อมกับชะลอการผสมพันธุ์ เพื่อลดปริมาณการตกลูกและลดหมูขุน เพื่อรอราคาอาหารหมูให้ถูกลงกว่านี้เพราะทนขาดทุนไม่ไหวแล้ว ทั้งนี้ ราคาหมูหน้าฟาร์มในปัจจุบันนี้ เมื่อคำนวณจากราคาค่าอาหาร และต้นทุนการผลิตแล้ว จะต้องขายหมูได้ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 80 บาท จึงจะทำให้เกษตรกรอยู่ได้








กำลังโหลดความคิดเห็น