ชุมพร - แรงงานชุมพรในประเทศอิสราเอล วิดีโอคอลแจ้งญาติ โชว์ภาพแคมป์ที่พัก ยืนยันความปลอดภัย มีตำรวจท้องถิ่นเฝ้าระวังภัย 24 ชั่วโมง แต่ยังได้ยินเสียงเครื่องบินและระเบิดดังต่อเนื่อง
จากเหตุการณ์สู้รบระหว่างกองกำลังฮามาส และทหารอิสราเอล ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยที่ไปทำงานในภาคการเกษตรเป็นจำนวนมาก และมีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บ ถูกจับกุมเป็นตัวประกัน และเสียชีวิตจำนวนหลายรายนั้น
ในส่วนของ จ.ชุมพร มีแรงงานไทยไปทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล จำนวน 7 คน โดยทางหน่วยงานเกี่ยวข้องจังหวัดชุมพร ได้เข้าไปดูแลเยี่ยมเยียนให้กำลังใจแก่ครอบครัวแรงงานทั้ง 7 ครอบครัวแล้ว ซึ่งทุกคนปลอดภัยดี
ล่าสุด น.ส.นันทิตา กายิ้ม ภรรยาของ นายเชาวลิต กายิ้ม หนึ่งแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ใกล้กับเขตชายแดนที่มีการสู้รบ ได้เปิดเผยว่า สามีของตนไปทำงานในไร่มะนาว ทางภาคใต้ตอนบนของประเทศอิสราเอล หลังเกิดเหตุได้โทรไลน์คุยกันทุกวัน ขณะนี้สามียังปลอดภัยดี เนื่องจากอยู่ห่างฉนวนกาซา พื้นที่สู้รบประมาณ 30-40 กิโลเมตร และสามียังออกทำงานในไร่มะนาวตามปกติ ซึ่งในหมู่บ้านดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นมาเฝ้าคุ้มกันรักษาความปลอดภัย และห้ามไม่ให้ใครออกไปจากหมู่บ้าน รวมทั้งคนงานให้อยู่แต่บริเวณแคมป์ที่ทำงานเท่านั้น
จากนั้น น.ส.นันทิตา ได้วิดีโอคอลกับ นายเชาวลิต สามี เพื่อให้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวด้วย โดยนายเชาวลิต บอกว่าในประเทศอิสราเอล ช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 4 ชั่วโมง ตนทำงานอยู่ห่างจากพื้นที่สู้รบประมาณ 40 กิโลเมตร โดยมีตำรวจท้องถิ่นคอยเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัย โดยแคมป์คนงานที่ตนอยู่มีเพื่อนแรงงานคนไทยด้วยกันประมาณ 20 คน ทุกคนปลอดภัยดี ซึ่งบริเวณพื้นที่ที่พวกตนทำงานอยู่มีแคมป์แรงงานไทยทำงานอยู่หลายแคมป์ โดยอยู่แคมป์ละ 20-30 คน และขณะนี้ทุกคนปลอดภัยดี และคอยติดตามข่าวการสู้รบอยู่ตลอดเวลา
นายเชาวลิต เล่าผ่านวิดีโอคอลต่อว่า ล่าสุดเช้าวันนี้ ถึงแม้ตนจะอยู่ในพื้นที่มีความปลอดภัย แต่ยังได้ยินเสียงเครื่องบิน เสียงระเบิดอยู่เป็นระยะๆ โดยนายเชาวลิต ได้วิดีโอคอลให้ผู้สื่อข่าวกับภรรยาและลูกๆ ได้เห็นภาพบรรยากาศภายในแคมป์ที่พักและบริเวณพื้นที่ทำงานที่ฟ้าเริ่มสางแล้ว โดยมีเพื่อนคนงานกำลังเริ่มทำอาหารมื้อเช้าและพร้อมเตรียมตัวออกทำงานตามปกติ