ตรัง - ชาวจีนที่อาศัยใน จ.ตรัง เชิญชวนชาวจีนมาท่องเที่ยวประเทศไทย ยันธรรมชาติสวย ผู้คนใจดี อาหารอร่อย ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.ตรัง เรียกร้องให้รัฐบาลไทยสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนชาวจีน เผยได้รับผลกระทบยอดจองทัวร์ชาวจีนหาย 40 เปอร์เซ็นต์
จากเหตุการณ์เด็กชาย อายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอน จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บหลายราย โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน จนเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นที่วิจารณ์กันในสื่อโซเชียลมีเดียของประเทศจีน จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยได้ออกนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ล่าสุด วันนี้ (5 ต.ค.) ชาวจีนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดตรังได้ออกมาเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนให้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย โดย Mr.kaiji Zhang (นายจาง ไค จี๋) หรือครูช้าง ครูสอนภาษาจีนในจังหวัดตรัง กล่าวว่า ตนอยู่เมืองไทยมานานกว่า 10 ปี ตอนนี้มีอาชีพเป็นครูสอนภาษาจีน ที่โรงเรียนเทศบาล 8 อนุบาลฝันที่เป็นจริง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ตนมีภรรยาเป็นคนไทย มีลูกชาย 1 คน อายุ 4 ขวบ ชื่อหยาง หยาง ตนเป็นชาวเมืองเทียนจิน ประเทศจีน มาเมืองไทยครั้งแรกเพื่อมาฝึกงาน ซึ่งตอนนั้นตนเรียนอยู่ปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยที่ประเทศจีน เมื่อเรียนจบเดินทางมาทำงานเป็นครูสอนภาษาจีนที่เมืองไทย เพราะตนชอบเมืองไทย คนไทยเป็นกันเอง ช่วยเหลือกัน และคนไทยใจดี นอกจากนี้ ตนชอบความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งทะเล ภูเขา และมีอาหารอร่อย
นายจาง ไค จี๋ กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในห้างสยามพารากอน ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตชาวจีน ตนขอยืนยันว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นน้อยมากในประเทศไทย แทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ โดยชาวไทยส่วนใหญ่มีจิตใจดีและยินดีต้อนรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย และประเทศไทยเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีน เป็นประเทศที่ได้รับความนิยมมากสูงสุดในเอเชีย และเพื่อนของตนจากประเทศจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยกันเกือบทุกปี เพราะเมืองไทยสวย และผู้คนใจดี ตนขอเชิญชวนคนจีนมาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะมาเที่ยวจังหวัดตรังเพราะมีทะเลสวย มีเกาะกระดานที่โด่งดังระดับโลก และงานวิวาห์ใต้สมุทรที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ด้าน น.ส.ธิฐิภรณ์ โภคาวัฒนา หรือแอร์ ภรรยานายจาง ไค จี๋ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว บริษัทไทยไฟร์ทสตาร์ทัวร์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. ตนโดนลูกค้าชาวจีน 10 ราย ยกเลิกโปรแกรมทัวร์ที่จองไว้ล่วงหน้า ซึ่งเขาให้เหตุผลว่าไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย เพราะเขามีลูก มีครอบครัวที่ต้องดูแล จึงไม่อยากเอาชีวิตมาเสี่ยง แม้ลูกค้าบางส่วนยังจะเดินทางมาเที่ยวเหมือนเดิม เพราะจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรมไว้แล้ว ซึ่งช่วงนี้เป็นวันชาติจีนและเป็นช่วงไฮซีซันของประเทศไทย พอมีเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ทำให้รายได้ของตนหายไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ พอลูกค้ายกเลิกจองแพกเกจทัวร์จากเรา เราต้องไปยกเลิกการจองเรือ รถ โรงแรม มันเสียหายกันไปเป็นทอดๆ โดยปกติลูกค้าที่จองทัวร์มาเที่ยวจังหวัดตรัง บริษัทของตนจะจัดแพกเกจสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดตรังและจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ เกาะกระดาน ถ้ำมรกต ถ้ำเลเขากอบ เกาะไหง
“อยากให้รัฐบาลออกมาคุยสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนชาวจีน ไม่ใช่คุยระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล เพราะคนที่มาเที่ยวคือประชาชนของจีน ต้องบอกเขาว่าประเทศไทยมีพื้นที่ที่ปลอดภัย และจะจัดการผู้ก่อเหตุหรือผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด ข้อเสียอย่างหนึ่งที่คนจีนพูดถึงเมืองไทยคือ ถ้ามีเงินทำผิดอย่างไรก็รอด และเมื่อมีข่าวโศกนาฏกรรมที่มีเด็กอายุ 14 ปี เป็นคนก่อเหตุ คนจีนตั้งข้อสังเกตว่าบ้านเด็กคนนี้มีเงินหรือเปล่า ถ้ามีเงินเขาก็รอดและไม่โดนลงโทษ ซึ่งเรื่องนี้เป็นกระแสในโซเชียลมีเดียของจีน จึงอยากให้รัฐบาลไทยสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีนในเรื่องนี้ คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษ” น.ส.ธิฐิภรณ์ กล่าว