พัทลุง - ปปท.เขต 9 ลงตรวจสอบหลังพบพิรุธจ่าทหารขนน้ำมันเถื่อนแต่รถพลิกคว่ำในพื้นที่ จ.พัทลุง ตั้งปมเป็นน้ำมันหนีภาษีหรือน้ำมันในกองทัพที่ยักยอกแอบส่งขายเอกชน ด้าน กอ.รมน.พัทลุงลงตรวจพบแอบขนน้ำมันจริง
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุรถรั้วบรรทุกขุยมะพร้าวพลิกคว่ำบนถนนหลวงหมายเลข 4 ในเขตอำเภอเขาชัยสน จ.พัทลุง โดยคนขับและเจ้าของรถคือ จ่าสิบโท เป็นข้าราชการทหาร สังกัด กองพันพัฒนาที่ 4 กองพลพัฒนาที่ 4 ซึ่งจากการตรวจสอบภายในเบื้องต้นภายหลังเกิดเหตุ จ่าสิบโทได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำพื้นที่เข้าตรวจสอบ แต่เนื่องจากไม่มีคู่กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอนุมัติให้กู้ซากรถยนต์ขึ้นจากไหล่ทางนำไปไว้บนรถสไลด์ (รถยก) เพื่อขนย้ายไปอู่ซ่อมต่อไป
จากนั้น จ่าสิบโทได้ประสานกับเจ้าของรถสไลด์ หรือรถยก ว่าจ้างรถสไลด์ให้นำรถของตนไปส่งปั๊มน้ำมันเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอจุฬาภรณ์ และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจ่ายค่าจ้าง 14,000 บาท เมื่อนำรถถึงปั๊มน้ำมันได้ทำการขนถ่ายสินค้าออก ต่อมาได้นำรถกลับมาอู่ในพื้นที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อนำกระสอบปุ๋ยมะพร้าวออก โดยเจ้าของอู่ตกใจหลังจากเอากระสอบที่วางด้านข้างด้านบนออก พบเป็นถังน้ำมัน 4 เหลี่ยม 2 ลูก ความจุ 4,000 ลิตร ถูกปิดทับและบังเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าข้างในเป็นอะไร
โดยเจ้าของอู่กล่าวว่า ตอนแรกที่เขาจ้างให้ไปส่งนั้นสินค้าเป็นอะไร แต่เมื่อนำรถที่เกิดอุบัติเหตุมาถึงอู่เพื่อที่จะทำการซ่อม พบว่าข้างในกระบะบรรทุกถังน้ำมันดังกล่าว ก่อนทำการยกลงและวางไว้ข้างอู่ ต่อมาเจ้าของที่เป็นจ่าสิบโท พร้อมประกันรถยนต์เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่ารถเกิดอุบัติเหตุจนได้รับความเสียหายเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาประกัน
จนทำให้เจ้าของอู่ถึงงง และยืนยันว่ารถที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นรถบรรทุกขุยมะพร้าวนั้นไม่ใช่แค่ขุยมะพร้าวห เป็นนำมันดีเซลหนีภาษีด้วย
ล่าสุด วันนี้ (29 ก.ย.) หลังจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 9 สงขลา ทราบข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ สอบถามเจ้าของอู่ และลงพื้นที่ที่มีการนำขุยมะพร้าวเก็บไว้พบว่ามีคราบของน้ำมันดีเซลติดอยู่จำนวนมาก โดยเบื้องต้น คาดว่าน้ำมันดังกล่าวที่มีทหารยศจ่าสิบโท สังกัดกองพันพัฒนาที่ 4 ใช้รถส่วนตัวขนย้ายข้ามจังหวัด จาก จ.สงขลา ไป จ.นครศรีธรรมราช และผ่านพื้นที่ จ.พัทลุง และได้เกิดอุบัติเหตุนั้น คาดว่าน้ำนั้นน่าจะเป็นน้ำมันที่ขโมยจากค่ายทหาร หรือน้ำมันหนีภาษีจากชายแดน จ.สงขลา และยังพบอีกว่า ทหารดังกล่าวพร้อมพวกอีก 4-5 คน มีการขนย้ายน้ำมันไปขายให้เอกชนบ่อยครั้งในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยทุกอย่างอยู่ในสำนวนการสอบสวนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 9 แล้ว
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจาก กอ.รมน.พัทลุง หลังทราบข่าวได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วเช่นกัน เบื้องต้น พบหลักฐานว่าทหารขนน้ำมันจริง แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นน้ำมันหนีภาษีหรือน้ำมันในค่ายทหารที่นำไปขายเอกชน และได้รายงานไปผู้บังคับบัญชา แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า