เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดค่ายเตรียมความพร้อมเยาวชนและครูพี่เลี้ยง ที่เข้าโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 41 พร้อมให้โอวาทเยาวชนยึดมั่นคำสอนของ พล อ.เปรม “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”
วานนี้ (28 ก.ย.) เวลา 19.00 น. พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมพร้อมให้โอวาทแก่เยาวชนที่เข้าอบรมเตรียมความพร้อมเยาวชนและครูพี่เลี้ยงในโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 41 โดยกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ (กปค.) และ ศอ.บต.จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 กันยายน 2566
มีนายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ สมาชิกชมรมเยาวชนโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ ทั้ง 5 จังหวัด วิทยากร เจ้าหน้าที่กองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ ศอ.บต. และกลุ่มเป้าหมายเป็นครูพี่เลี้ยงเยาวชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อำเภอนาทวี สะบ้าย้อย จะนะ และอำเภอเทพา จำนวน 320 คน เข้าร่วมในพิธี ณ โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นโครงการสำคัญตามดำริของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี และนายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานคณะกรรมการการดำเนินโครงการ ที่ได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 16 ปี ซึ่งขณะนี้ดำเนินการมาแล้ว 41 รุ่น มีสมาชิกที่ใช้นามสกุลเดียวกัน คือ "สานใจไทย สู่ใจใต้" กว่าหมื่นคน สร้างเยาวชนที่เป็นต้นแบบที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสังคมที่หลากหลาย
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดีที่ได้พบปะน้องๆ เยาวชน เป็นสมาชิกที่มาจากครอบครัวจากชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม จำนวน 320 คน ที่จะเป็นน้ำดี อยากให้ทุกคนได้จดจำผู้มีพระคุณคือผู้ที่ริเริ่มก่อตั้งโครงการนี้คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพที่ดี มีความพร้อมทุกๆ อย่างและเชื่อมั่นว่าน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะนำประสบการณ์ที่ได้จากการไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์กลับมาพัฒนาภาคใต้บ้านเรา โดยนำปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เพื่อปรับใช้ในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสร้างพื้นที่สันติสุขท่ามกลางความหลากหลายของพหุวัฒนธรรมได้
“ขอให้เยาวชนยึดมั่นคำสอนของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่สอนไว้ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” การรักษาความเป็นไทย และความเป็นธรรม เพื่อช่วยเหลือ สร้างประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง”
ด้านตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการ รุ่นที่ 41 กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกิจกรรมในการเตรียมความพร้อมโครงการนี้ และได้รับความรู้ทักษะต่างๆ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงความหลากหลายของวัฒนธรรม วิถีชีวิตของต่างศาสนิกโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ได้เรียนรู้การสร้างบุคลิกภาพที่ดี มีความกล้าแสดงออก ได้แสดงศักยภาพของตนเอง และเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดีในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ กิจกรรมระยะเวลา 3 วัน มีการอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ เราคือพี่น้องสกุลเดียวกัน สายใจไทย สู่ใจใต้ หัวข้อ ภารกิจครูพี่เลี้ยงกับเยาวชนสานใจไทย กรณีศึกษา สานใจไทย สู่ใจใต้ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทักษะวัฒนธรรม นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมฐานพัฒนาบุคลิกภาพกระบวนการมีส่วนร่วมฉันพี่น้องร่วมอุดมการณ์
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจก่อนไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในพื้นที่ภาคกลางอีกด้วย โดยจะเดินทางในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 ด้วยรถไฟด่วนพิเศษจากสถานีหาดใหญ่ ปลายทางสถานีกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ากิจกรรมค่ายเยาวชนสมานฉันท์ กรมการปกครอง ณ วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 30 กันยายน 2566 นี้