xs
xsm
sm
md
lg

ชาวตรังโอดบิลค่าไฟงวดใหม่ยอดยังไม่ลด แถมหลายบ้านค่าไฟกลับสูงขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ชาวตรังต่างผิดหวังที่บิลเก็บค่าไฟงวดล่าสุดยังไม่ได้ลดตามนโยบายที่รัฐบาลชุดใหม่ประกาศไว้ แถมหลายบ้านค่าไฟกลับสูงขึ้น เพราะยังต้องจ่ายค่าไฟในอัตราต่อหน่วยเท่าเดิม คือ หน่วยละ 5.91 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับบิลค่าไฟงวดใหม่แล้ว และเป็นยอดการใช้ไฟที่เจ้าหน้าที่จดบันทึกการใช้ไฟตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม จนถึงประมาณวันที่ 18-24 กันยายนที่ผ่านมานั้น แต่เมื่อนำมาตรวจสอบดูค่าไฟที่จะต้องจ่าย ทุกคนกลับต้องผิดหวัง เพราะค่าไฟยังไม่ได้ลด ตามนโยบายที่รัฐบาลชุดใหม่ประกาศไว้ เนื่องจากยังคงเป็นค่าไฟของเดือนสิงหาคม ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะออกบิลค่าไฟในเดือนกันยายนนี้ก็ตาม แถมหลายบ้านค่าไฟกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น ชาวบ้านบางรายในพื้นที่ ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่เดือนก่อนจ่ายค่าไฟอยู่ที่ประมาณเดือนละ 300-400 บาท แต่ใบแจ้งหนี้รอบใหม่ที่ส่งมาล่าสุดนี้ พบว่ากลับต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมเป็น 450-600 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณครัวเรือนละเกือบ 200 บาท เพราะยังต้องจ่ายค่าไฟในอัตราต่อหน่วยเท่าเดิม คือหน่วยละ 5.91 บาท แถมยังจ่ายสูงกว่าเดือนก่อนด้วย

ขณะที่ร้านต้นชาติ่มซำ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายกาแฟ ติ่มซำยามเช้า ริมถนนพาดรถไฟกันตัง ในเขตเทศบาลนครตรัง นางอารีย์ วงศ์วิวัฒน์ เจ้าของร้านบอกว่า ตนได้รับบิลค่าไฟงวดล่าสุดแล้ว ซึ่งเป็นการใช้ไฟตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ถึงวันที่ 18 กันยายน พบว่าจำนวนเงินเรียกเก็บครั้งนี้ลดลงกว่าเดือนก่อนกว่า 1,000 บาท โดยเชื่อว่าเป็นผลจากการร่วมกันประหยัดค่าไฟของทางร้านเอง หลังพบว่าค่าไฟพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และเมื่อตรวจสอบบิลค่าไฟงวดล่าสุด พบว่าค่าไฟต่อหน่วยยังอยู่ที่ 5.91 บาท แสดงว่ามาตรการลดค่าไฟของทางรัฐบาลยังไม่มาในบิลนี้ ซึ่งร้านขายกาแฟ ติ่มซำยามเช้า ต่างมีต้นทุนสำคัญเหมือนกันคือค่าก๊าซหุงต้ม และค่าไฟ โดยเฉพาะก๊าซหุงต้ม ต้องใช้ทั้งนึ่ง ทั้งต้ม ทั้งทอดวันละจำนวนมาก ซึ่งหากทางรัฐบาลปรับลดค่าก๊าซ ค่าไฟลง เชื่อว่าจะสามารถช่วยประชาชน รวมทั้งร้านอาหารให้ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง

ส่วนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น อยากให้ทางรัฐบาลผ่อนคลายเรื่องระยะทางในการใช้เงิน เพราะหากกำหนดรัศมีแค่ 4 กิโลเมตร จะมีใครมาใช้จ่ายเงินดิจิทัลที่ร้านอาหารของตนเองได้บ้าง โดยเฉพาะประชาชนรอบนอก ซึ่งปกติจะเดินทางเข้ามาใช้จ่ายในตัวเมือง แต่คงไม่มีใครมาใช้จ่ายเงินในส่วนนี้ได้ เพราะมีระยะทางเกินพื้นที่ที่กำหนด ต่างกับโครงการคนละครึ่งของทางรัฐบาลชุดที่แล้วที่สามารถใช้ที่ไหนก็ได้ สามารถช่วยกระตุ้นยอดขาย หรือกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ จึงอยากให้ทางรัฐบาลนำนโยบายนี้มาใช้กับเงินดิจิทัล 10,000 บาทด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น