หนีไม่รอด! กองปราบซ้อนแผนจับสองผัวเมียจอมแสบหลอกเช่ารถก่อนเชิดหนีคาปั๊มน้ำมัน

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจกองปราบซ้อนแผนจับสองผัวเมียจอมแสบคาปั๊มน้ำมัน พบหมายจับคดีร่วมกันยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ติดตัวอื้อ โดยทั้งคู่ได้ขับรถเก๋งมาจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาเช่ารถกลับไปเที่ยวที่นครศรีฯ ส่อแววอาจหลอกเช่ารถเชิดหนีอีกครั้ง

วันนี้ (22 ก.ย.) ตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ชุดปฏิบัติการ วางแผนจับกุมสองผัวเมียจอมแสบ คือ นายสราวุธ ธรรมบดี อายุ 45 ปี และนางพรปวีณ์ ศรีประสงค์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 176/2565 ลงวันที่ 7 พ.ย.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ และยังมีหมายจับคดีร่วมกันลักทรัพย์ติดตัวอีกหลายหมายจับ

โดยทั้ง 2 คนถูกตำรวจกองปราบจับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ม.1 ต.ควนลัง อ.ควนลัง จ.สงขลา หลังจากที่สืบสวนแกะรอยและทราบว่า นายสราวุธ และนางพรปวีณ์ สองผัวเมียคู่นี้ได้ติดต่อขอเช่ารถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ จากผู้ประกอบการรถเช่าใน อ.หาดใหญ่ และในวันนี้ได้นัดหมายเดินทางมารับรถกันภายในปั๊มน้ำมันแห่งนี้


ทางตำรวจกองปราบจึงวางแผนจัดกำลังไปเฝ้ารอภายในปั๊ม จนกระทั่งทั้งคู่ปรากฏตัวเดินทางมากับรถเก๋งพร้อมกับครอบครัว และตำรวจกองปราบได้สังเกตพฤติกรรมอยู่สักพักเพื่อไม่ให้เป้าหมายไหวตัวทัน เนื่องจากทั้งคู่ค่อนข้างระวังตัว สอดส่ายสายตา ทั้งเดินไปเดินมาเพื่อดูความผิดปกติภายในปั๊มน้ำมัน

เมื่อเริ่มตายใจว่าไม่มีอะไรผิดสังเกต ตำรวจกองปราบจึงแสดงตัวเข้าจับกุมเอาไว้ได้ทั้ง 2 คน พร้อมกับแสดงหมายจับให้ดู แต่ทั้งคู่อ้างว่าแค่มารับรถฟอร์จูนเนอร์ที่เช่าไว้เพื่อขับกลับไปเที่ยวที่ จ.นครศรีธรรม แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนเพราะมีหมายจับคดียักยอกทรัพย์ ทำให้ทั้งคู่ปฏิเสธไม่ออก ซึ่งเป็นคดีที่ทางผู้ประกอบการรถเช่าใน จ.นครศรีธรรมราช แจ้งความเอาไว้หลังจากที่หลอกเช่ารถแล้วเชิดหายไป

และในวันนี้เป็นไปได้ว่าเป้าหมายอาจจะมาหลอกเช่ารถฟอร์จูนเนอร์ เพราะจากพฤติกรรมยอมขับรถเก๋งมากับครอบครัวจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อที่จะเช่ารถกลับไปเที่ยวที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีค่าเช่าวันละ 3,000 บาท ส่อแววมีพิรุธอาจหลอกเชิดรถไปเหมือนกับที่เคยถูกผู้ประกอบการรถเช่าแจ้งความไว้


และจากการตรวจสอบในระบบ Crimespolice ปรากฏว่า นายสราวุธ ยังมีหมายจับค้างเก่าอยู่อีก 3 หมาย ได้แก่ 1.หมายจับที่ จ.268/2565 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 27 มิ.ย.2565 ซึ่งต้องหาวว่ากระทำผิดข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อพ้นการจับกุม” ของ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี

2.หมายจับที่ 461/2565 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 20 ต.ค.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์” ของ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และ 3.หมายจับที่ จ.270/2566 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 7 ก.ค.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ของ สภ.พุนพิน

ส่วน นางพรปวีณ์ มีหมายจับค้างเก่าอยู่อีก 1 หมายเช่นกัน คือ หมายจับที่ 460/2565 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 20 ต.ค.2565 ซึ่งต้องหาวว่ากระทำผิดข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์” ของ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี

โดยหลังจากทั้ง 2 คนถูกตำรวจกองปราบจับกุมได้ ได้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีตามหมายจับที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป