ตำรวจสงขลาบุกยึดที่ดินผู้ต้องหาคดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย แจ้งข้อหาฟอกเงิน “เจ๊อ้อย” อีกกระทง

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจ ภ.จว.สงขลาระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายในคดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย อ.สิงหนคร จ.สงขลา ดำเนินคดีฟอกเงิน ตรวจยึดทรัพย์ที่ดิน 5 แปลง มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการ ปปง. ดำเนินคดีผู้ต้องหาเพิ่ม 3 ราย “เจ๊อ้อย” เจอแจ้งข้อหาฟอกเงินอีกกระทง

จากกรณีเมื่อ 28 มี.ค.2565 สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.สิงหนคร ให้ดำเนินคดีกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์บุกรุกและขุดหน้าดินในเขตพื้นที่โบราณสถานภูเขาน้อย อ.สิงหนคร จ.สงขลา ได้รับความเสียหาย เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ โดยมีความเสียหายในหลายด้านด้วยกันนั้น

วันนี้ (16 ก.ย.) ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 12 จุด เพื่อยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม จำนวน 5 รายการ และตรวจสอบเป้าหมายบุคคลเพิ่มเติมอีก 7 จุด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินซึ่งอาจเข้าข่ายในความผิดฐานฟอกเงินเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้ตั้งคณะทำงานสืบทรัพย์ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของนางณัฏฐ์ณรัน หรือเจ๊อ้อย จันทร์สว่าง หนึ่งในผู้ต้องหากับพวก รายงานไปยังเลขาธิการ ปปง. ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีมติให้ยึดทรัพย์สิน (ที่ดิน) จำนวน 5 แปลง ตามคำสั่งที่ ย.201/2566 ลง 4 ก.ย.66 มูลค่าประเมินรวมประมาณ 1.1 ล้านบาท

และ สภ.สิงหนครได้รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีผู้ต้องหากับพวกเพิ่มเติมจำนวน 4 ราย ดังนี้ 1.นางณัฏฐ์ณรัน จันทร์สว่าง พี่สาวนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โดยนางณัฏฐ์ณรัน เป็นภรรยาของนายชาญชญา หรือเสริมศักดิ์ จันทร์สว่าง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร และเป็นมารดาของนายกอง จันทร์สว่าง นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร 2.นางจันทิมา ลอยลม 3.น.ส.จันทิมา จันทร์สว่าง ลูกสาวของนางณัฏฐ์ณรัน จันทร์สว่าง และ 4.น.ส.จิรัฐิติกาล อดทน โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันฟอกเงิน” ตามมาตรา 5 (1) และ (2) แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามคดีอาญาที่ 302/66 ลง 5 ก.ย.2566 อีกส่วนหนึ่ง


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความสำคัญอีกคดีหนึ่ง เนื่องจากเป็นคดีที่กลุ่มคนร้ายได้เข้าไปบุกรุกที่ดินของโบราณสถาน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดสงขลา ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ถือเป็นสมบัติของชาติอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านบาท จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดยดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย และขยายผลดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินได้เพิ่มเติมอีก 4 ราย นอกจากนี้ ในวันนี้ยังได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นอีก 12 จุด เพื่อติดตามยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมตามกฎหมายฟอกเงิน

“จากนี้หากพบว่ามีบุคคลหรือทรัพย์สินอื่นใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวอีกจะติดตามดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาดทั้งหมด” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สภ.สิงหนครได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 5 ราย ประกอบด้วย 1.นางณัฏฐ์ณรัน จันทร์สว่าง 2.นายชาญชญา จันทร์สว่าง 3.นายกอง จันทร์สว่าง 4.นายสนธิเทพ เต็มอะหลี และ 5.นายวุฒิชัย คล้ายเพ็ชร์ ดำเนินคดีในฐานความผิด 7 ข้อหา ได้แก่ 1.ร่วมกันบุกรุกโบราณสถาน พ.ร.บ.โบราณสถาน 2.ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าฯ พ.ร.บ.ป่าไม้ 3.ร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง หรือทำด้วยประการใด ทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ป.ที่ดิน


4.ร่วมกันตั้งและประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.โรงงาน 5.ร่วมกันทำการขุดดิน โดยไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น พ.ร.บ.การขุดดิน 6.ร่วมกันทำเหมือง โดยไม่รับประทานบัตรเจ้าพนักงาน พ.ร.บ.แร่ และ 7.ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ป.อาญา โดยพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดสงขลาไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2566 ตามคดีหมายเลขดำที่ 74/66 ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนนัดคุ้มครองสิทธิ/ตรวจพยานคดี

ทั้งนี้ สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลาได้มาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.สิงหนคร โดยมีเสียหายในหลายด้าน ประกอบด้วย 1.ความเสียหาย (ทรัพย์ถูกประทุษร้าย) 4,087,659 บาท 2.ค่าเสียหายทางโบราณสถาน 41,279,733 บาท 3.ค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 134,487 บาท และ 4.ค่าเสียหายตาม พ.ร.บ.แร่ 2,579,901 บาท ซึ่งมีผลกระทบกับเจดีย์ภูเขาน้อย ที่เป็นโบราณสถานสำคัญอายุกว่า 1,400 ปี ตามคดีอาญาที่ 154/65 ลง 28 มี.ค.2565