xs
xsm
sm
md
lg

รปภ.แพะคดีพยายามฆ่า ครวญถูกจับติดคุกฟรี สูญเสียอิสรภาพนาน 1 ปี 4 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระบี่ - รปภ.แพะคดีพยายามฆ่า ครวญถูกจับติดคุกฟรี สูญเสียอิสรภาพนาน 1 ปี 4 เดือน ขณะที่คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล เตรียมฟ้องกลับ บอกขอให้ตนเป็นแพะรายสุดท้าย คนร้ายทำผิดบางคนยังไม่เข้าไปรับโทษ แต่ตนไม่ผิดกลับต้องติดคุก


นายจักรพงศ์ พลรบ อายุ 27 ปี พร้อมด้วยนายราเชลร์ จันทร์อ่อน ทนายความอาสา สำนักงานกฎหมายราเชลร์ทนายความ ได้เดินทางไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อยื่นเอกสารขอค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา หลังติดคุกฟรี 1 ปี 4 เดือน เพื่อให้คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาประจำจังหวัดกระบี่ พิจารณาจ่ายค่าทดแทนตามสิทธิแห่ง พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544

หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดกระบี่) และ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาลงโทษรวมจำคุก 12 ปี 12 เดือน ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง

นายราเชลร์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีของนายจักรพงศ์ ได้รับขอความช่วยเหลือจากนายวารินทร์ พลรบ อายุ 58 ปี และนางจิราพร พลรบ อายุ 53 ปี ทั้ง 2 มีฐานะยากจน เป็นพ่อและแม่ ของนายจักรพงศ์ พลรบ ผู้ต้องหาว่าลูกชายของตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี ตนจึงรับอาสาช่วยเหลือ สำหรับพฤติกรรมในคดีเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 19 ส.ค.62 เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิง และ ปาระเบิดใส่กันที่ลานปูดำ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ และมีนายนัฐวุฒิ อาจหาญ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณด้านหลังกระสุนปืนทะลุปอด พลเมืองดีนำส่ง รพ.กระบี่

ต่อมา นายจักรพงศ์ พลรบ ตกเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นคนร้าย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และอัยการส่งฟ้องตกเป็นจำเลย 3 ข้อหา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุก รวม 12 ปี 12 เดือน และศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาลงโทษจำเลยยืนตามศาลชั้นต้น โดยพิจารณาเชื่อว่าผู้บาดเจ็บเห็นว่าจำเลยเป็นคนร้ายและยิงผู้เสียหายในคดีนี้

ทนายราเชลร์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นตนในฐานะทนายความของจำเลยได้ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาล และเมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 ศาลฎีกาพิจารณาคดีโดยละเอียดแล้ว วินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนัก หนักแน่น มั่นคงให้รับฟังว่าเป็นความจริงยิ่งกว่าพยานหลักฐานโจทก์ พิพากษากลับ ยกฟ้อง ทำให้นายจักรพงศ์ ถูกคุมขังในเรือนจำจังหวัดกระบี่ 2 เดือน และถูกย้ายไปคุมขังที่เรือนจำกลางพังงา อีก 1 ปี 2 เดือนเศษ รวม 1 ปี 4 เดือน ก่อนถูกปล่อยตัวในที่สุด


นายจักรพงศ์ กล่าวว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตา ก่อนที่ตนเองถูกจับกุมดำเนินคดี เคยทำงานเป็น รปภ.ถูกจับคุมขังในคุกทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด ต้องสูญเสียอิสรภาพ ชีวิตพัง ตนเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ต้องดูแลพ่อแม่ ตนติดคุกก็เหมือนพ่อแม่ต้องมาติดคุกด้วย ต้องไร้บ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย พ่อแม่ต้องลำบาก มีประวัติติดตัว ต้องออกจากงาน และจะหางานทำยากขึ้นเพราะมีประวัติอาชญากร ครอบครัวต้องเป็นหนี้

ตนและครอบครัวต้องทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส ตนตั้งข้อสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการยุติธรรม ขอให้รัฐบาลใหม่ดูแลเรื่องนี้ด้วย ขอให้ตนเป็นแพะรายสุดท้าย อย่าให้ใครต้องเกิดสภาพเดียวกับตนอีกเลย คนทำผิดหลายคนที่เป็นคนรวยยังไม่เข้าไปรับโทษเลย แต่ตนซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์กลับต้องถูกคุมขังในคุก

ขอให้เรื่องของตนเป็นกรณีตัวอย่างของปัญหาแพะในกระบวนการยุติธรรมที่ต้องได้รับการแก้ไขปัญหาโดยด่วน ขอให้ทุกหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม อย่าเห็นแก่ผลงาน ปิดสำนวนให้จบๆ ไป โดยไม่เกิดความยุติธรรมที่แท้จริงเช่นที่เกิดขึ้นนี้อีกเลย ในวันที่ฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นบอกแม่ทั้งน้ำตาว่า รู้ว่าแม่ไม่มีเงินประกันตัว ต้องเข้าคุก ถ้าความยุติธรรมมีจริง จะได้ออกมาดูแลแม่กับพ่ออีก ในที่สุดความยุติธรรมก็เกิดขึ้น หลังจากนี้จะฟ้องเอาผิดกับคนที่ทำให้ตนต้องติดคุกฟรี เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมคืน

ขอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญาประจำจังหวัดกระบี่ และรัฐบาลใหม่ ได้โปรดพิจารณาช่วยเหลือตนให้ได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายในคดีอาญา ที่ต้องสูญเสียทุกอย่างไป เนื่องจากตนเป็นผู้บริสุทธิ์


กำลังโหลดความคิดเห็น