ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พนักงานดูแลระบบเอกชนสุดทน ติดป้ายขอร้องโจรอย่าตัดสายเคเบิลสื่อสาร ของศูนย์ควบคุมวิทยุการบินภูเก็ต หลังจากถูกขโมยตัดมาแล้ว 6 ครั้ง ขณะตำรวจลงพื้นที่สืบสวน เผยได้เบาะแสคนร้ายแล้ว
กลายเป็นกระแสดังทางสื่อโซเชียล เมื่อมีพนักงานรับจ้างเหมาบริษัทเอกชนรับดูแลระบบสายสื่อสารของศูนย์วิทยุการบินภูเก็ต นำแผ่นกระดาษเคลือบพลาสติกไปติดไว้ที่เสาไฟฟ้า บริเวณถนนเลียบรันเวย์สนามบินนานาชาติภูเก็ต ปรากฏข้อความ “เรียนคุณโจร สายทองแดงถูกตัดไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ “สายใยแก้วนำแสง” ซึ่งตัดไปก็ขายไม่ได้ แต่คุณมาตัดอีกเป็นครั้งที่ 6 แล้ว มันส่งผลกระทบกับการควบคุมจราจรทางอากาศ (เครื่องบินที่กำลังบิน และเครื่องบินที่กำลังบินขึ้นลง) กรุณาอย่าตัดสายใดๆ อีกเลย คิดถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเครื่องบินด้วย อาจเป็นพ่อ แม่ ญาติ พี่น้องเพื่อนๆ ของคุณที่กำลังบินอยู่ ขอความเห็นใจและขอขอบคุณที่ไม่ตัดสายใดๆ อีก
อย่างไรก็ตาม หลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สลาน สันติศาสนกุล ผกก.สภ.สาคู เร่งสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ต่อมา ผกก.สภ.สาคู ได้ประชุมฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมเชิญผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมวิทยุการบินภูเก็ต เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน
จนปรากฏข้อเท็จจริงว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 25 ส.ค.66 และ 30 ส.ค.66 ได้มีคนร้ายเข้าไปลักตัดสายเคเบิลสื่อสารของศูนย์ควบคุมวิทยุการบินภูเก็ต รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 50,172.30 บาท แต่ทางศูนย์ควบคุมวิทยุการบินภูเก็ต ไม่ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู จนต่อมามีผู้นำแผ่นกระดาษเคลือบพลาสติกไปติดไว้ที่เสาไฟฟ้าดังกล่าว
หลังจากนั้น ผกก.สาคู ได้ประสานให้นายพงษ์ชัย มูลรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมวิทยุการบินภูเก็ต ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู โดยแจ้งความเมื่อวันที่ 7 ก.ย.66 ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ไล่กล้องวงจรปิดในช่วงเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ซึ่งพอจะได้เบาะแสของผู้ต้องสงสัยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยายานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายต่อไป
ส่วนมาตรการในการป้องกันในเชิงลึกนั้น ทางสภ.สาคู ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าพิสูจน์ทราบทันทีเมื่อได้รับแจ้งเหตุหรือพบบุคคลต้องสงสัย เพิ่มความถี่ของสายตรวจในการออกลาดตระเวน การตรวจสอบสถานภาพการใช้งานของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบริเวณเส้นทางโดยรอบของศูนย์ควบคุมวิทยุการบินภูเก็ต ตลอดจนประสานกับผู้นำท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมวิทยุการบินภูเก็ต เพื่อช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลไม่ให้มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุได้โดยง่ายอีก