xs
xsm
sm
md
lg

ส ส.ประชาชาติเสนอกระทรวงพลังงานให้ทบทวนแบ่งค่าภาคหลวงให้ท้องถิ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ส.ส.ประชาชาติตบเท้าเข้าพบปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะกรรมการองค์กรร่วมพัฒนาพื้นที่ไทย-มาเลเซีย เพื่อทบทวนแบ่งผลประโยชน์ค่าภาคหลวงจากการใช้เกาะโลซินในการได้มาซึ่งแหล่งปิโตรเลียมในทะเลให้แก่ อบต.บ้านน้ำบ่อ จ.ปัตตานี

วานนี้ (5 ก.ย.) นายอับดุลอายี สาแม็ง รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ และ ส.ส.ยะลา นายสมมุติ เบญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ส.ส.ปัตตานี นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ส.ส.ปัตตานี นายสุไลมามาน บือแนปีแน ส.ส.ยะลา และ พล.ต.ท.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้เข้าพบนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และกรรมการองค์กรร่วมพัฒนาพื้นที่ไทย-มาเลเซีย (MTJDA) เพื่อเสนอเรื่องให้พิจารณาการแบ่งปันผลประโยชน์ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมจากสัมปทานการใช้ทรัพยากรในพื้นที่ MTJDA ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่

การเข้าหารือดังกล่าว สืบเนื่องจากนายสูดิน โตะพา นายก อบต.บ้านน้ำบ่อ และนายบาฮาอูดิน ตาเล๊ะ รองนายกฯ ได้เข้าร้องเรียนต่อพรรคประชาชาติ ว่า ต้องการให้ทบทวนและบริหารจัดการผลประโยชน์ให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้น และศึกษาการแบ่งผลประโยชน์จากแหล่งในทะเล เช่น ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมให้แก่ชุมชนโดยตรง เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากในพื้นที่ของ อบต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี มีเกาะโลซินตั้งอยู่ และในอดีต รัฐบาลไทยใช้เกาะโลซินเป็นข้อต่อสู้ในการกำหนดอาณาเขตในทะเล แต่ชุมชนไม่เคยได้รับประโยชน์ใดๆ

ทั้งนี้ MOU ระหว่างไทยและมาเลเซียจะสิ้นสุดในปี 2572 ในการนี้อาจต้องมีการพิจารณาประกาศของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง การจัดสรรค่าภาคหลวงแร่และค่าภาคหลวงปิโตรเลียมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2544 ใหม่ โดยพิจารณาถึงรัฐธรรมนูญไทย มาตรา 43 ที่กำหนดว่า บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากธรรมชาติทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ

มาตรา 50 แห่งรัฐธรรมนูญไทย (8) ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรม และมาตรา 51 แห่งรัฐธรรมนูญไทยที่ระบุว่า การใดที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้เป็นหน้าที่ของรัฐ ตามหมวดนี้ถ้าการนั้นเป็นการทำเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนโดยตรง ย่อมเป็นสิทธิของประชาชนและชุมชนที่จะติดตามและเร่งรัดให้รัฐดำเนินการ รวมทั้งฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดให้ประชาชนหรือชุมชนได้รับผลประโยชน์นั้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ


กำลังโหลดความคิดเห็น