ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จับแล้วไอ้หื่นวิตถารบุกห้องพักสาวสอง พาไปทำอนาจารบนดาดฟ้า แม้ตอนแรกจะปฏิเสธไม่รู้เห็น สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อผลตรวจดีเอ็นเอคราบอสุจิ และบนมือถือ พบประวัติเคยก่อคดีพยายามฆ่า จี้พยายามข่มขืน คดียาเสพติด และเคยติดคุกมาแล้วด้วย
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายจอมหื่นวิตถาร บุกห้องพักสาวประเภทสองในหอพักแห่งหนึ่งย่านทุ่งเสา อ.หาดใหญ่ ขณะนอนอยู่กับแฟนหนุ่ม โดยใช้วิธีสับคัตเอาต์แผงไฟให้ไฟดับ เพื่อล่อเหยื่อออกมาดู และใช้มีดจี้คอจะร่วมรักทางประตูหลังต่อหน้าแฟนหนุ่ม แต่เปลี่ยนใจพาขึ้นไปทำอนาจารบนดาดฟ้าชั้น 4 โดยให้อมอวัยวะเพศจนอเวก ก่อนใช้วิธีสไลด์หนอนจนสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และยังชิงโทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่อง โดยสาวสองเคราะห์ร้ายรายนี้บอกว่าไม่เห็นหน้าคนร้าย เพราะสวมไอ้โม่ง แต่จำอวัยวะเพศได้เพราะผ่าเบนซ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.40 น. ของวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยในวันเกิดเหตุทาง พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ และ พ.ต.ต.บัญญัติ สุกิจจารักษ์ สว.สส. ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้แกะรอยคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดขณะเดินขึ้นไปในโรงแรมที่อยู่ติดกับหอพัก และปีนดาดฟ้าชั้น 4 ข้ามไปก่อเหตุ จนพบตัวเป็นชายอายุ 34 ปี โดยตามไปจับได้ที่บ้านพักย่านถนนเทียนจ่ออุทิศ แต่ยังคงปากแข็ง แม้ว่าถึงขั้นต้องดูอวัยวะเพศที่ผ่าเบนซ์ตรงเป๊ะ ตามที่ผู้เสียหายยืนยัน แต่ยังคงปฏิเสธ
โดยพบว่ามีประวัติเคยก่อคดีพยายามฆ่า จี้พยายามข่มขืน คดียาเสพติด และเคยติดคุกมาแล้วด้วย เบื้องต้นตำรวจจึงทำได้เพียงแจ้งข้อหาเสพยา เนื่องจากผลตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด และคุมตัวเอาไว้ แต่ว่าล่าสุดผู้ต้องสงสัยรายนี้ดิ้นไม่หลุด เนื่องจากผลตรวจดีเอ็นเอจากคราบอสุจิบนดาดฟ้า และที่โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายออกมาแล้ว ซึ่งตรงกับชายต้องสงสัยรายนี้ ทราบชื่อคือนายภูริวิทย์ นำไพศาล อายุ 34 ปี
จากนั้นจึงขอศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับ และโดนแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 4 ข้อหา คือ 1.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน ทำด้วยประการใดอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธและในเคหสถาน 2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยการขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้อาวุธ 3.บุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน และ 4.พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
จับกุมและคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี แม้ว่าทีแรกจะปากแข็ง ยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่าไม่ได้ก่อเหตุ แต่ต้องมาจำนนด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มัดตัวจนดิ้นไม่หลุด และผลพวงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายรายงานด้วยว่า ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจสาวประเภทสองอย่างหนัก เนื่องจากถึงขั้นต้องเลิกกับแฟนหนุ่มวัย 16 ปี เพราะครอบครัวของแฟนหนุ่มรับไม่ได้ที่ลูกชายมาคบกับสาวประเภทสอง จึงจำเป็นต้องเลิกกัน ทำให้หัวใจบอบช้ำอย่างหนัก เพราะนอกจากจะต้องพบกับเหตุการณ์เลวร้าย ถูกคนร้ายทำอนาจารแล้ว ยังต้องเลิกกับแฟนด้วย ที่สำคัญหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว ยังถูกด้อยค่า และบูลลี่จากคอมเมนต์ในโซเชียล จากการเป็นสาวประเภทสองด้วย