xs
xsm
sm
md
lg

โผล่อีก! ร้านหาดใหญ่เจอโนติ๊ส “ปังชา” จี้เลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรฯ ไม่ทำตามเจอเรียก 2 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบอีกโนติ๊ส “ปังชา” ที่ อ.หาดใหญ่ อ้างละเมิดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรของผู้อื่น ซึ่งเป็นถ้วยไอศกรีมใส่ปังชาในลักษณะคล้ายกัน เจ้าของร้านจำใจเลิกใช้ถ้วยที่ซื้อมาราว 10 ปีแล้ว เพราะไม่อยากมีปัญหา และอาจต้องจ่ายค่าเสียหายสูงลิ่วถึง 2 ล้านบาท

ความคืบหน้าเรื่องการละเมิดเครื่องหมายการค้า “ปังชา” หลังพบโนติํสจากบริษัทเจ้าของแบรนด์ดังที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ส่งถึงเจ้าของร้านชา 2 เจ้าใน จ.เชียงราย และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อขอให้ยุติการละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า พร้อมกับเรียกค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาล รวมทั้งคิดค่าล่าช้าเป็นรายวัน จนกลายเป็นกระแสทัวร์ลงทั้งในโลกออนไลน์ และเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศนั้น

ล่าสุด วันนี้ (1 ก.ย.) เกี่ยวกับเรื่องนี้ ปรากฏว่ายังพบเจ้าของร้านที่ถูกยื่นโนติ๊สในลักษณะดังกล่าวจากทางเจ้าของแบรนด์ “ปังชา” เพิ่มอีก 1 ราย โดยเป็นเจ้าของร้าน “Tang Jai Chong - ตั้งใจชง” ซึ่งตั้งอยู่ในย่านถนนจิระนคร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา และทางเจ้าของร้านได้โพสต์ผ่านหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง หลังจากพบว่ามีร้านชาหลายร้านโดนโนติ๊สเรียกเงินในลักษณะเดียวกันนี้


โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปร้านดังกล่าว ทราบว่าทางหญิงสาวเจ้าของร้านเพิ่งออกเดินทางไปกรุงเทพฯ หลังได้รับเชิญให้ไปออกรายการดัง ในกรณีที่เจ้าของแบรนด์ “ปังชา” ได้ส่งโนติ๊สเรียกค่าเสียหายจากร้านชาหลายแห่ง จากการสอบถาม และสืบเสาะทางสื่อโซเชียลของเจ้าของร้าน ทราบว่าร้านนี้เปิดมาได้ราว 6 ปีแล้ว และหยุดขายในช่วงโควิดไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขายจำพวกชา กาแฟ เบเกอรี่ ของหวาน และนำแข็งไสต่างๆ

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางร้านได้รับโนติ๊สจากสำนักงานทนายความเจ้าของแบรนด์ “ปังชา” ในเอกสารลงวันที่ 28 เม.ย.66 ระบุหัวข้อให้ทางร้านยุติการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรของผู้อื่น พร้อมกับอ้างถึงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ และรูปถ่ายผลิตภัณฑ์ถ้วยไอศกรีม โดยหากไม่ทำตามจะมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2 ล้านบาท และดำเนินคดีตามกฎหมายกับทางเจ้าของร้าน

ซึ่งทางร้านหลังได้รับจดหมายก็ตกใจมาก และหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นถ้วยไอศกรีมในลักษณะคล้ายคลึงกับที่ทางเจ้าของแบรนด์ “ปังชา” ส่งมาอ้างถึงการเป็นเจ้าของสิทธิบัตรในตัวผลิตภัณฑ์ในทันที เนื่องจากไม่แน่ใจว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่ และไม่อยากมีปัญหาตามมาในภายหลัง


สำหรับถ้วยไอศกรีมของทางร้านที่ถูกกล่าวถึงนั้น จะใช้สำหรับใส่ของหวานเมนูปังเย็นชาไทย ปังเย็นโกโก้ ปังเย็นชาเขียว และเมนูปังหนาว โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่มีจุดแตกต่างกันที่ของทางร้านจะเป็นถ้วยแบบ 3 แฉก แต่ของแบนรด์ปังชาเป็นถ้วย 4 แฉก รวมทั้งที่ขาถ้วยก็แตกต่างกันด้วย โดยของทางร้านขาถ้วยหุบเข้าใน แต่ของแบรนด์ปังชาจะผายออกด้านนอก ซึ่งถ้วยแบบนี้ทางเจ้าของร้านได้ซื้อมาจากตลาดนัดจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อราว 10 ปีก่อน ซื้อมาราว 1 โหล และปัจจุบันได้หยุดใช้ไปแล้ว เพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับเจ้าของแบรนด์ปังชา

ทั้งนี้ ทางเจ้าของร้านระบุด้วยว่า หลังได้รับโนติ๊สก็ไม่รู้ว่าทางร้านของตนจะทำผิดกฎหมายหมายอะไรหรือไม่ แต่ได้หยุดใช้ถ้วยที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันไปก่อนแล้ว โดยอยากที่จะให้ทางภาครัฐ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายออกมาชี้แจง และให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ด้วย เพื่อที่ทางร้าน และผู้ประกอบการในลักษณะเดียวกันนี้จะได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน และสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้อย่างสบายใจ และถูกต้องตามกฎหมาย






กำลังโหลดความคิดเห็น