สตูล - จากกรณีชาวมาเลเซีย 30 ชีวิตที่ได้พายเรือคายัคข้ามแดนจากเกาะลังกาวีมาท่องเที่ยวที่สตูล แต่ระหว่างทางได้เกิดคลื่นลมแรงทำให้เรือล่ม ขณะนี้พบตัวครบทุกคนแล้ว โดยมี 1 ราย พบอาการบาดเจ็บที่สะบักเล็กน้อย
วันนี้ (29 ส.ค.) จากเหตุการณ์นักกีฬาพายเรือคายัคชาวมาเลเซียที่รวมตัวกัน 30 คน ใช้เรือคายัคพายข้ามแดนจากเกาะลังกาวี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสตูล ประเทศไทย ด้วยระยะทาง 32 กม. แต่ระหว่างทางได้เกิดคลื่นลมแรง ทำให้ไม่สามารถจะประคองเรือเดินทางมาตามวันเวลาที่มีการนัดกับทางการไทย ที่เกาะยาว อ.เมือง จ.สตูลได้ เนื่องจากเกิดเรือล่มระหว่างทางในแนวเขตของมาเลเซียก่อน
ทำให้ทางการไทยทุกฝ่าย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล หน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล.ภาค 3 ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เจ้าท่าส่วนภูมิภาคสาขาสตูล ตำรวจน้ำสตูล สั่งกำลังพร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากความแรงลมและคลื่นได้ซัดให้ทั้ง 30 คน ซึ่งเป็นหญิง 18 คน ชาย 12 คน ที่พายเรือคายัค จำนวน 20 ลำ แตกแยกย้าย โดยพบว่ามาติดตามเกาะปรัสมาน่า และรอยต่อสตูล-ลังกาวี พบจำนวน 27 คน และอีก 3 คน คลื่นลมได้ซัดนักพายเรือเข้ารัฐเปอร์ลิส ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว มีเพียง 1 คนใน 27 ที่พบอาการบาดเจ็บที่สะบักเล็กน้อย
สำหรับนักกีฬาพายเรือคายัคชุดนี้ มีด้วยกันจำนวน 20 ลำ 30 คน ได้ออกเดินทางจากเกาะลังกาวี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเชีย มาจังหวัดสตูล ประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลกจังหวัดสตูล และเกาะลังกาวี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งมีการจัดกิจกรรมขึ้น โดยจังหวัดสตูล ร่วมกับหน่วยงาน Langkawi Development Authoritu (LADA) เกาะลังกาวี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย กำหนดจัดกิจกรรมพายเรือคายัคระหว่างประเทศ สตูล-ลังกาวี ระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2566