ตรัง - ผู้ประกอบการร้านอาหารเมืองตรังแสดงความเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต่อการเสนอให้รัฐบาลใหม่ขยายเวลาให้สถานบริการเปิดถึงตี 4 และหนุนการให้ฟรีวีซ่า 3 เดือนแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
วันนี้ (29 ส.ค.) จากกรณีที่นายกสมาคมภัตตาคารไทย เสนอให้รัฐบาลใหม่จัดโซนนิ่งผับบาร์โต้รุ่ง ด้วยการขยายเวลาให้สถานบริการเปิดถึงตี 4 และหนุนการให้ฟรีวีซ่าเป็นระยะสั้น 3 เดือน แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เหมือนหลายประเทศที่ดำเนินการแล้ว เพื่อกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งผู้ประกอบร้านอาหารและสถานบริการในจังหวัดตรังบางส่วนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยต่อแนวคิดดังกล่าว
นายสิงหา ชูนวน หัวหน้าบาร์เทนเดอร์ และผู้ประกอบการร้านอาหาร “ไลออนส์ เทล ตรัง” มองว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นโอกาสทองในการสร้างรายได้ให้ร้านอาหาร ผับ บาร์ รวมไปถึงร้านข้าวต้มและตลาดโต้รุ่ง เพราะจะเพิ่มความคึกคักให้จังหวัดตรังมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาค่อนข้างน้อย และจะเป็นกลุ่มที่ดื่มกินดึก ส่วนใหญ่จะออกมาใช้บริการช่วงเวลา 21.00-22.00 น. เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านี้ออกมาดึก หากสถานบริการเปิดถึงตี 4 สามารถไปดื่มกินต่อกันได้หลายที่ สร้างบรรยากาศในเมืองตรังให้คึกคักมากขึ้น ส่วนการเสนอให้ฟรีวีซ่า 3 เดือนนั้น ตนไม่มั่นใจว่าจะทำได้จริง แต่หากทำได้จริงถือว่าเป็นผลดีและเป็นโอกาสให้จังหวัดที่มีทรัพยากรท่องเที่ยวที่สมบูรณ์อยู่แล้วอย่างจังหวัดตรัง
ขณะที่ นายสักขฉัฐ เชี่ยวภู่ ผู้ประกอบการร้านอาหาร “โฮมลอดจ์” มองว่า การขยายเวลาให้สถานบริการในจังหวัดตรัง เปิดถึงตี 4 จากเดิมที่ให้ปิดเวลา 24.00 น. และ 02.00 น.นั้น ตนเห็นว่ายังไม่ใช่ในเวลานี้ ด้วยสภาวะยอดขายของแต่ละร้าน บวกกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งนิสัยการจับจ่ายข้าวของในจังหวัดตรังไม่ได้มากพอ สำหรับรองรับร้านที่เปิดถึงตี 4 มีเพียงนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่จะอยู่ได้ถึงเวลานั้น ซึ่งหากมีร้านไหนเปิดถึงตี 4 จริงๆ ต้องแบกรับภาระต้นทุนที่มากขึ้น และอาจจะมีปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้นได้ รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อร้านที่เปิดปิดในเวลาไม่ดึกด้วย ส่วนการเสนอให้ฟรีวีซ่า 3 เดือน แก่นักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นคงเป็นผลดีต่อจังหวัดอื่นในฝั่งอันดามัน แต่สำหรับจังหวัดตรังคงไม่มีผลอะไร เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็นชาวไทย