xs
xsm
sm
md
lg

นายก อบจ.ตรัง-อบต.บ่อหิน หนุนตัวแทนท้องถิ่นพบรัฐบาลใหม่ เชื่อ “อนุทิน” นั่ง มท.1 เข้าใจรากหญ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - นายก อบจ.ตรัง อบต.บ่อหิน หนุนตัวแทนท้องถิ่นพบรัฐบาลใหม่ เชื่อ “อนุทิน” นั่ง มท.1 เข้าใจรากหญ้า แถมมี “เนวิน” เป็นกุนซือ โอดที่ผ่านมาท้องถิ่นขนาดเล็กประสบปัญหาขาดงบ เน้นกระจายอำนาจแต่ไม่กระจายงบ หวั่นถูกหั่นงบจากนโยบายเงินดิจิทัล

จากกรณี 3 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะส่งตัวแทนเข้าพบรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และงบประมาณของท้องถิ่น ให้ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งเรื่องภารกิจและงบประมาณ ให้ท้องถิ่นสนองตอบความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ซึ่งนายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดตรังได้ออกมาแสดงท่าทีเห็นด้วยกับวัตถุประสงค์การเข้าพบรัฐบาลชุดใหม่ รวมทั้งฝากความหวังไว้กับว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการดูและแก้ปัญหาของท้องถิ่นอีกด้วย

โดย นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง กล่าวว่า เห็นด้วยที่ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการตั้งตัวแทนเพื่อเข้าพบรัฐบาลชุดใหม่เพื่อเรียกร้องประเด็นการกระจายอำนาจ และเรื่องของการจัดสรรงบประมาณ หากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมมือร่วมใจกันเรียกร้องก็จะเป็นพลังที่ชัดเจน เรื่องงบประมาณในปี 2567 นี้ ทางท้องถิ่นมีข้อกังวลว่าจะโดนหั่นงบประมาณไปใช้ในนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งทั้งประเทศมีมูลค่าสูงถึง 6 แสนล้านบาท หากรัฐบาลใหม่เกิดเอางบของท้องถิ่นไป ท้องถิ่นจะอยู่กันไม่ได้ จะส่งผลกระทบเนื่องจากตอนนี้ที่ท้องถิ่นอยู่ได้เพราะได้บริหาร ได้ดูแลประชาชน บ้านเรา จ.ตรัง มีปัญหาเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมปีละ 2 ครั้ง ปัญหาภัยจากคลื่นลม อีกทั้งสินค้าเกษตรยางและปาล์มน้ำมัน ราคาตกต่ำ ประชาชนอยู่ไม่ได้

นายบุ่นเล้ง กล่าวต่อว่า เรื่องการจัดสรรงบประมาณมาท้องถิ่นต้องจัดสรรมาพัฒนา มีมาเท่าไหร่ก็ทำเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่เพียงพอ อย่างปีล่าสุดเราได้งบอุดหนุนเฉพาะกิจที่รัฐบาลให้มา จำนวน 80 ล้านบาทเท่านั้น ที่ผ่านมาองค์กรปกครองท้องถิ่นได้งบประมาณมาน้อย เราได้แต่โอดครวญไม่รู้จะทำอย่างไร อย่าง อบจ.ตรัง ขอไปทางสมาพันธ์ อบจ.14 จังหวัดภาคใต้ จังหวัดกลุ่มอันดามัน แม้จะได้บ้างหรือไม่ได้ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ แต่ท้องถิ่นขนาดเล็กซึ่งเงินที่ได้มาหลังจ่ายงบประมาณจำเป็น เช่น ค่าน้ำมัน เงินเดือน ค่าไฟฟ้า เหลือเพียงไม่เท่าไหร่ ก็เป็นปัญหาต่อการพัฒนาอย่างอื่น มีความคิดแต่ไม่มีเงินก็ทำงานลำบาก มีโครงการแต่พอไม่มีเงินต้องพับโครงการไป

ส่วนเรื่องกระแสว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นุ้น นายบุ่นเล้ง กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องดีเพราะนายอนุทิน รู้ปัญหาระดับล่างดี เพราะเป็นนักการเมืองที่รู้ความต้องการของพื้นที่ และทางฝั่งนายเนวิน ชิดชอบ ที่ถือได้ว่าเป็นครูใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยย่อมรู้ปัญหาของท้องถิ่นดีเช่นเดียวกัน

ด้าน นายธรรมฤทธิ์ เขาบาท นายก อบต.บ่อหิน กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่สมาพันธ์จะได้มีข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ เพราะ อบต.เป็นองค์กรที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในท้องถิ่นมีมาก กฎหมายที่ปิดขั้นการดำเนินชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นต้องได้รับการแก้จากส่วนกลาง เช่น กฎหมายการใช้พื้นที่ กฎหมายที่ดินทำกิน กฎหมายเกี่ยวกับอาชีพและรายได้ หน้าที่ของรัฐต้องสร้างความกินดีอยู่ดีให้ประชาชน

ตนมองว่านโยบายกระจายอำนาจที่ลดฐานะให้ท้องถิ่นเป็นนิติบุคคล แม้มี พ.ร.บ.กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น หรือกระทรวงมหาดไทย ยังยึดติดกับกรอบแนวทางการพัฒนา เช่น งบประมาณที่กำหนดไว้ต้องไม่น้อยกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องแบ่งมาให้ท้องถิ่น แต่ปัจจุบันนี้แบ่งมาจริงแค่ 27-28 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อย่างเช่น นมโรงเรียน อาหารกลางวัน เบี้ยผู้สูงอายุ ตกไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เรื่องงบอุดหนุนจะเฉพาะกิจเราเขียนโครงการขอไปทุกปี ซึ่งที่ได้มาจากความสามารถผู้บริหารท้องถิ่น หรือความสนิทสนมกับผู้บริหารส่วนกลาง โดยในแต่ละปีมีงบอุดหนุนท้องถิ่นสูงถึง 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งควรมีกติกาที่ชัดเจน

นายก อบต.บ่อหิน กล่าวว่า กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นยังมองว่ากรอบการพัฒนาต้องขึ้นอยู่กับส่วนกลางที่มีการกำหนดหมวดไว้ชัดเจน เช่น ด้านกีฬา ด้านการศึกษา ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านนวัตกรรม เป็นต้น ท้องถิ่นไหนส่งโครงการเข้าไปตรงกรอบโครงการที่กรมกำหนดจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณ ซึ่งในความเป็นจริงควรให้ความเป็นอิสระต่อท้องถิ่น เพราะปัญหาของแต่ละท้องถิ่นจำเป็นเร่งด่วนแตกต่างกันไป

อยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ให้แก้ปัญหาการดำรงชีวิตให้ประชาชนที่ต้องแก้ไขกฎหมาย เช่น กฎหมายด้านทรัพยากร กฎหมายท้องถิ่น ซึ่งกฎหมายด้านทรัพยากร เกิดขึ้นจาก พ.ร.บ.ที่มีศักดิ์และสิทธิที่เท่าเทียมกัน และกฎหมายท้องถิ่นเกิดขึ้นจาก พ.ร.บ.อบจ. พ.ร.บ.เทศบาล แต่เมื่อมีหน่วยงานอื่นเข้ามา เขาจะมองว่าเขาเหนือกว่า แต่หน้าที่ของ อบต.ต้องดูแลพื้นที่ทุกตารางนิ้ว ดังนั้นอำนาจน่าจะเท่าเทียมกัน

นายธรรมฤทธิ์ กล่าวว่า อยากสะท้อนคือเรื่องปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ซึ่งกรมบัญชีกลางมองว่าโปร่งใส เป็นธรรม และถูกต้อง แต่ในข้อเท็จจริงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การพัฒนาประเทศ การจัดสรรงบประมาณให้แต่ละพื้นที่ งบประมาณจากส่วนกลาง งบประมาณรัฐบาล งบประมาณประจำปีที่จัดสรรให้พื้นที่ ส่วนงบประมาณยุทธศาสตร์จัดสรรให้จังหวัด งบประมาณท้องถิ่นจัดสรรให้ท้องถิ่น แต่วิธีจัดซื้อจัดสร้างเป็นขั้นตอนที่กรมบัญชีกลางควบคุมให้เกิดความโปร่งใส และเป็นธรรมที่สุด ตนมองว่าเงินไม่ตกถึงประชาชน เช่น เมื่อมีเงินลงมา จ.ตรัง ควรจะให้คนตรังที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์มีสิทธิรับสัมปทาน แทนจะให้สัมปทานคนต่างจังหวัดอื่นที่อาจก่อให้เกิดปัญหาทีหลัง เช่น ปัญหาการรับประกัน ปัญหาการซ่อมแซม ซึ่งเหล่านี้กระทบต่อท้องถิ่นเป็นอย่างมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น