นราธิวาส - โจรใต้ลอบวางระเบิด อส.ชคต.ชุดรักษาความปลอดภัยครู ร.ร.บ้านจะแลเกาะ ต.มะนังตายอ อ.เมืองนราธิวาส โชคดีเจ้าหน้าที่ขี่รถ จยย.ผ่านไปได้ราว 30 เมตร ก่อนคนร้ายกดบึ้มเสียงดังสนั่น
วันนี้ (21 ส.ค.) ร.ต.อ.อิทธิพล มาลิกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ริมถนน สามแยกทางเข้าโรงเรียนบ้านจะแลเกาะ หมู่ 7 ต.มะนังตายอ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยพบว่าที่ป้ายบอกสัญลักษณ์โรงเรียนบ้านจะแลเกาะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามแยกทางเข้าโรงเรียนซึ่งเป็นพงหญ้ารกทึบ และจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิดมีหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 5 ฟุต และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิคหนัก 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน และพงหญ้ารกทึบริมทางห่างจากจุดเกิดเหตุระเบิด ซึ่งเป็นบ้านพักเลขที่ 33 ของนายมะกือตา เจะมะเระ ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายที่กระจกหน้าต่างแตก 1 บาน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ สมาชิกเอกตูแวยะโกะ แวสอเหาะ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดคุ้มครองตำบลมะนังตายอ ได้นำกองอาสารักษาดินแดนรวม 4 นาย ขี่และนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 2 คัน เพื่อปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนบ้านจะแลเกาะ เมื่อเสร็จภารกิจได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับฐาน ห่างจากโรงเรียนประมาณ 500 เมตร ถึงสามแยกปากทางเข้าโรงเรียนบ้านจะและเกาะ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ และได้จุดชนวนระเบิดที่นำไปซุกไว้บริเวณพงหญ้ารกทึบ ใกล้กับป้ายบอกสัญลักษณ์โรงเรียน จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่โชคดีกองร้อยรักษาดินแดนชุด ชคต.มะนังตายอ ทั้ง 4 นาย ซึ่งขี่และนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุไปประมาณ 30 เมตร จึงทำให้เจ้าหน้าที่รอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด แต่สะเก็ดระเบิดได้กระเด็นไปถูกบ้านของชาวบ้านที่ปลูกสร้างอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร ได้รับความเสียหายที่บริเวณกระจกหน้าต่างแตกเสียหาย 3 แผ่น
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่ และสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
