xs
xsm
sm
md
lg

รองเลขาธิการ ศอ.บต.หารืออัครราชทูต ช่วยแรงงานไทยร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองเลขาธิการ ศอ.บต. หารืออัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ช่วยแรงงานไทยร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซีย หลัง ศอ.บต.พบปัญหาหลายด้าน พร้อมย้ำรัฐบาลหนุนพัฒนาแรงงานไทยต่อเนื่อง และต้องการให้แรงงานทุกคนเข้ามาทำงานในมาเลเซียอย่างถูกต้อง เพื่อรับสิทธิตามกฎหมาย

นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมคณะ ประกอบด้วย น.อ.จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายชุมพล แจ้งไพร (เชฟชุมพล) กรรมการผู้จัดการสถาบันการอาหารไทย รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และเจ้าหน้าที่ส่วนงานยุติธรรม ศอ.บต. เจ้าหน้าที่ส่วนงานกองการต่างประเทศ ศอ.บต. เดินทางไปร้านอาหารในรัฐกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าพบอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประเทศมาเลเซีย และผู้แทนที่เกี่ยวข้อง ในการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนแรงงานไทย และกำหนดแนวทางการช่วยเหลือทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว เนื่องจากประเทศมาเลเซียได้เริ่มดำเนินมาตรการเข้มงวดแก่ผู้ประกอบการ และประชาชนที่จะเข้ามาทำงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ทางรัฐบาลไทย โดย ศอ.บต. จะต้องรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้แรงงานทุกคนสามารถเข้าทำงานในทุกรัฐของประเทศมาเลเซียได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยเร็ว ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีผู้แทนจากผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในมาเลเซีย และผู้แทนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า สำหรับประเด็นหารือกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับแรงงานไทยในมาเลเซียในครั้งนี้ ทาง ศอ.บต. ได้มีข้อเสนอเพื่อเป็นการจัดระเบียบแรงงานเพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบและสามารถได้รับการดูแลตามกฎหมาย โดยมีการหยิบยกปัญหาและจำแนกประเภทแรงงานและข้อเสนอ ดังนี้ 1.แรงงานที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มี Work Permit ซึ่งกลุ่มนี้จะขอขยายหลักเกณฑ์ในด้านอายุของผู้ขอ Work Permit จากเดิมอายุไม่เกิน 45 ปี เป็นไม่เกิน 60 ปี 2.แรงงานที่เข้าทำงานโดยใช้ Passport แต่ไม่มี Work Permit และยังคงกลับมาขออนุญาต Visa ท่องเที่ยวทุกเดือน 3.แรงงานที่เข้าทำงานโดยใช้ Border pass ซึ่งอนุญาตเพียงแค่รัฐชายแดนแต่เดินทางไปทำงานอยู่ในทุกรัฐของประเทศมาเลเซียและยังคงกลับมาขออนุญาต Visa ท่องเที่ยวทุกเดือน 4.แรงงานที่เข้าทำงานโดยใช้ passport หรือ Border pass เดินทางไปทำงานอยู่ในทุกรัฐของประเทศมาเลเซีย โดยไม่ได้กลับมาขออนุญาต Visa ท่องเที่ยวทุกเดือนปล่อยให้กลายเป็น Overstay (อยู่เกินกำหนดระยะเวลา) 5.แรงงานที่เดินทางไปทำงานอยู่ในทุกรัฐของประเทศมาเลเซียโดยไม่มีทั้ง Passport และ Border pass

จากข่อมูลดังกล่าว พบว่าแรงงานประเภทที่ 2-5 เป็นแรงงานประเภทที่เข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายซึ่งส่งผลกระทบมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน คืออัตราการลงทะเบียนของบุคคลไร้สัญชาติเพื่อขอพิสูจน์สัญชาติยังคงเพิ่มข้นทุกปี เนื่องจากไม่มีหลักฐานการคลอดจากโรงพยาบาลจากการที่ไม่มีประกันสุขภาพเพราะไม่มี Work permit ทำให้ไม่มีใบสูติบัตรและบัตรประชาชน และต้องเข้าสู่การตรวจพิสูจน์ DNA เพื่อรับรองการเป็นบุคคลสัญชาติไทยปีละกว่า 700 คน

ซึ่งภายหลังจากการหารือครั้งนี้ ศอ.บต. จะประสานกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมวางแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งระบบแบบ Set Zero เพื่อแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม พร้อมวางขั้นตอนและวิธีการแก้ไขปัญหาในภาพรวมและในแต่ละประเด็นให้มีความชัดเจนเพื่อเป็นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาระระหว่างทั้ง 2 ประเทศในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น