ศอ.บต.ดึงบุคลากรโรงเรียน ตชด.43 และ 44 ร่วมถอดบทเรียนหนุนแนวทางการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม พร้อมตบเท้าเข้าชุมชน สร้างความเข้มแข็ง และปฏิสัมพันธ์อันดีกับประชาชน
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ขับเคลื่อนการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมในบริบทของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2566 เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยนำผลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่ ศอ.บต. ได้สนับสนุนให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ผ่านมานำมาถอดบทเรียน วิเคราะห์ผล และเสนอแนะกิจกรรมร่วมกัน พร้อมนำผลที่ได้มาปรับใช้ในแผนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 43 และ 44 ในปีงบประมาณใหม่
โดยวานนี้ (16 ส.ค.) พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้ร่วมพบปะพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ ศอ.บต. ผู้แทนตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 ตลอดจนครูใหญ่ บุคลากรในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 43 และ 44 รวม 18 แห่ง เข้าร่วม ณ ห้องกรุงเทพ 1 โรงแรมบีพี แกรนด์ ทาวเวอร์ หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเนื่องด้วยกลไกอื่นๆ ที่เข้าไม่ถึงระยะทาง ข้อจำกัดทางสังคม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และมิติความมั่นคงที่ควบคู่กันทั้ง 18 โรง ดังนั้น ขอให้ภูมิใจในสิ่งที่ทำเพื่อชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งภาครัฐจะคอยหนุนเสริมเติมเต็มในทุกเรื่อง โดยเฉพาะภาษาไทยที่ไม่ได้จะทำให้โครงสร้างทางวัฒนธรรมเปลี่ยนแปลง แต่จะเป็นโอกาสในการใช้ชีวิตต่อไปในภายภาคหน้า ทำให้เด็กๆ สามารถอ่านออก เขียนได้ และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับภาษาอื่นๆควบคู่กัน อีกทั้งโรงเรียน ตชด.จะต้องเป็นศูนย์กลางพัฒนาความเข้มแข็งในชุมชน สร้างปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างครู ผู้ปกครอง และคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกันที่สอดรับกับวิถีชีวิตสังคมพหุวัฒนธรรมและบริบทพื้นที่ในชุมชน เพื่อลดช่องว่าง ลดเงื่อนไข และเดินหน้าพัฒนาสู่ความยั่งยืน
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวต่ออีกว่า ความสำเร็จของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเด็กจะสอบได้หรือสอบผ่าน แต่คือการร้อยใจให้ทุกคนมีความรักความสามัคคีและสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นเป็นปึกแผ่นต่อไป
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ผู้เข้าร่วมจะได้ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ตลอดหลักสูตร และจะได้ร่วมทำกิจกรรมกลุ่มเชิงปฏิบัติการ (Workshop) 2 กิจกรรมหลักได้แก่ 1.การวิเคราะห์และสรุปบทเรียนจากการ ดำเนินงานในด้านการเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมและชายแดนที่เข้มแข็ง และ 2.ทบทวนและออกแบบโครงการเพื่อยกระดับ การเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมและชายแดนที่เข้มแข็งในลักษณะที่มีการบูรณาการการทำงานกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีวิทยากรจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มาร่วมให้ความรู้และข้อเสนอแนะ พร้อมพูดคุยระดมสมองนำเสนอผลงานต่อไป
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ขับเคลื่อนการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมในบริบทของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2566 เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยนำผลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่ ศอ.บต. ได้สนับสนุนให้โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ผ่านมานำมาถอดบทเรียน วิเคราะห์ผล และเสนอแนะกิจกรรมร่วมกัน พร้อมนำผลที่ได้มาปรับใช้ในแผนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 43 และ 44 ในปีงบประมาณใหม่
โดยวานนี้ (16 ส.ค.) พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้ร่วมพบปะพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสรร อินทรสิทธิ์ รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจการพิเศษ ศอ.บต. ผู้แทนตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 ตลอดจนครูใหญ่ บุคลากรในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 43 และ 44 รวม 18 แห่ง เข้าร่วม ณ ห้องกรุงเทพ 1 โรงแรมบีพี แกรนด์ ทาวเวอร์ หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเนื่องด้วยกลไกอื่นๆ ที่เข้าไม่ถึงระยะทาง ข้อจำกัดทางสังคม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และมิติความมั่นคงที่ควบคู่กันทั้ง 18 โรง ดังนั้น ขอให้ภูมิใจในสิ่งที่ทำเพื่อชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ซึ่งภาครัฐจะคอยหนุนเสริมเติมเต็มในทุกเรื่อง โดยเฉพาะภาษาไทยที่ไม่ได้จะทำให้โครงสร้างทางวัฒนธรรมเปลี่ยนแปลง แต่จะเป็นโอกาสในการใช้ชีวิตต่อไปในภายภาคหน้า ทำให้เด็กๆ สามารถอ่านออก เขียนได้ และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับภาษาอื่นๆควบคู่กัน อีกทั้งโรงเรียน ตชด.จะต้องเป็นศูนย์กลางพัฒนาความเข้มแข็งในชุมชน สร้างปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างครู ผู้ปกครอง และคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกันที่สอดรับกับวิถีชีวิตสังคมพหุวัฒนธรรมและบริบทพื้นที่ในชุมชน เพื่อลดช่องว่าง ลดเงื่อนไข และเดินหน้าพัฒนาสู่ความยั่งยืน
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวต่ออีกว่า ความสำเร็จของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเด็กจะสอบได้หรือสอบผ่าน แต่คือการร้อยใจให้ทุกคนมีความรักความสามัคคีและสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นเป็นปึกแผ่นต่อไป
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ผู้เข้าร่วมจะได้ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ตลอดหลักสูตร และจะได้ร่วมทำกิจกรรมกลุ่มเชิงปฏิบัติการ (Workshop) 2 กิจกรรมหลักได้แก่ 1.การวิเคราะห์และสรุปบทเรียนจากการ ดำเนินงานในด้านการเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมและชายแดนที่เข้มแข็ง และ 2.ทบทวนและออกแบบโครงการเพื่อยกระดับ การเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมและชายแดนที่เข้มแข็งในลักษณะที่มีการบูรณาการการทำงานกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีวิทยากรจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มาร่วมให้ความรู้และข้อเสนอแนะ พร้อมพูดคุยระดมสมองนำเสนอผลงานต่อไป