xs
xsm
sm
md
lg

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ควง DSI ตามคดีชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มกระบี่ พบกระทบวงกว้าง มีผู้เสียหาย 5 หมื่นคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระบี่ - กรมส่งเสริมสหกรณ์ ควง DSI ตามคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มกระบี่ และคดีต่อเนื่อง พบการกระทำความผิดส่งผลกระทบวงกว้าง มีผู้เสียหายกว่า 5 หมื่นราย


เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (15 ส.ค.) ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เดินทางไปกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 56/66 ซึ่งมี ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกำลังสอบสวนบันทึกปากคำพยานปากสำคัญ ในคดีการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่

หลังจากนั้น ได้เดินทางไปรับทราบข้อมูลพื้นที่ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ สาขาคลองท่อม ต.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยมี นายเติมศักดิ์ เสียมไหม ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์อ่าวลึก นางจันทิมา ชาตะญาณ ผู้อำนวยการนิคมคลองท่อม และผู้มีส่วนได้เสียคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตอันส่งผลกระทบและเกิดความเสียหายต่อเกษตรชาวจังหวัดกระบี่ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์

หลังจากนั้นได้ประชุมหารือแนวทางร่วมกันโดยมีสาระสำคัญในเรื่องของการดำเนินคดีกลุ่มผู้กระทำความผิดและการบริหารจัดการของกลางในคดีพิเศษให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงยุติธรรม ที่ประกาศไว้โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่ปี 2547

ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมการคดีพิเศษรับคดีการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ เป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 และถือโอกาสมาตามความคืบหน้าของคดีและทำความเข้าใจชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ของผู้มีส่วนได้เสีย เนื่องจากคดีนี้มีผู้กระทำความผิดจำนวนหลายราย และมีผู้มีส่วนได้เสียจำนวนมาก และคดียังไปเกี่ยวพันต่อเนื่องกับการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิในที่ดินนิคม ปัจจุบันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องทุกข์ตามกรอบอำนาจพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จำนวน 3 คดีด้วยกัน คือ 1.คดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้ามากแล้ว

2.คดีทุจริตที่ดินในนิคมคลองท่อม สำหรับเรื่องนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ส่งเอกสารที่น่าเชื่อว่า เป็นการรับรองเอกสารมิชอบเพื่อออกโฉนดที่ดินในนิคมคลองท่อม จำนวน 313 แปลง ให้ทำการสืบสวนสอบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และกำหนดจะลงพื้นที่กลางเดือนกันยายนนี้ และพบการกระทำความผิดแล้ว แต่ต้องสืบสวนสอบสวนอย่างรัดกุม รอบด้าน

3.คดีบุกรุกครอบครองพื้นที่นิคมสหกรณ์อ่าวลึก 796 ไร่ พนักงานสอบสวนที่ทำหน้าที่สืบสวนลงพื้นที่ตรวจพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สืบสวนพบว่า การอนุญาตให้ใช้ที่ดินสิ้นสุดลงมา 11 ปี ซึ่งผู้รับอนุญาตเดิมยังคงครอบครองทำประโยชน์ และมีผู้เข้าครอบครองใหม่ 35 ราย เข้าทำการแย่งสิทธิต่อกัน ผู้เช่าเดิมจึงยืนขอต่ออายุ ทั้งที่การอนุญาตสิ้นสุดมาเป็นเวลา 11 ปีแล้ว ผู้เข้าทำประโยชน์ใหม่ 35 รายยื่นขออนุญาต ซึ่งทางสหกรณ์จังหวัดได้เสนอต่อกรมส่งเสริมสหกรณ์พิจารณาไม่อนุญาตให้ทั้ง 2 กรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษจะสืบสวนสอบสวนเอาผิดผู้กระทำความผิดทุกรายและให้ความเป็นธรรมเท่าเทียมกัน หลังจากที่ดำเนินคดีแล้วจะส่งคืนพื้นที่ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์นำไปบริหารจัดการตามหน้าที่และอำนาจของกรมส่งเสริมสหกรณ์ต่อไป” ร.ต.อ.ปิยะ กล่าว


ขณะที่ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับคำสั่งให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/66 ได้ประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนทั้งหมดและผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ในวันนี้ลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำอำนวยความสะดวกให้พยานปากสำคัญในพื้นที่ และในโอกาสนี้ ต้องการบอกรายละเอียดและขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนในฐานะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษ โดยคดีนี้ เมื่อมีผู้ร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาออกคำสั่งสืบสวน แต่เนื่องจากคดีนี้การกระทำความผิดไม่อยู่ในประกาศท้ายพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษโดยตรง กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงนำเรื่องสืบสวนเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ และคณะกรรมการคดีพิเศษให้รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ และตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน และเมื่อสืบสวนสอบสวนพบการกระทำความผิดและมีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกระทำความผิด พนักงานสอบสวนคดีพิเศษขณะนั้น เลขคดี 215/2565 จึงสรุปสำนวนส่งยังคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

ซึ่งตามขั้นตอนของ ป.ป.ช.จะส่งสำนวนไปผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเรื่องนี้ สำนวนนี้จึงกลับมายัง ป.ป.ช.กระบี่ และผู้อำนวยการ ป.ป.ช.กระบี่ ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นให้ส่งสำนวนกลับไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ เสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.และเมื่อการประชุม ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ได้เห็นชอบให้ส่งสำนวนกลับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ต่อไป พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงแต่งตั้งพนักงานสอบสวนคดีนี้ โดยมีเลขคดีที่ 56/66 มีตนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน

ซึ่งขณะนี้ตนได้รับสำนวนการสอบสวนและมีการประชุมพนักงานสอบสวนแล้ว แต่เนื่องจากยังมีของกลางในคดีซึ่งมีมูลค่าสูงตนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางมาดูของกลางในดดีด้วยตัวเอง ซึ่งหลังจากนี้ จะเรียกประชุมร่วมกับหลายส่วนเพื่อรับของกลางในคดี และเนื่องจากคดีนี้ผู้เสียหายได้ถวายฎีกาต่อสำนักพระราชวัง จึงมีความจำเป็นที่จะทำงานร่วมกับคณะที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม และผู้ที่กระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดี ผู้สนับสนุนการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีด้วย “ผมเห็นใจเกษตรกรที่ร่วมลงทุนและมีส่วนได้เสียในรูปแบบสหกรณ์” ร.ต.อ.ชาญณรงค์ กล่าว

ส่วน นายประวัติ กล่าวว่า อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้นัดหมายกับ ร.ต.อ.ปิยะ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ แต่ไม่สบาย จึงมอบให้ตนลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 101/2565 ในการแก้ปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ซึ่งวันนี้ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากที่คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่งสำนวนกลับมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ที่มีผลกระทบต่อวงกว้าง มีผู้มีส่วนได้เสียมากกว่า 50,000 ราย

“ผลการสืบสวนสอบสวนทำให้ทราบว่า การทุจริตในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ มีสหกรณ์ต่างๆ ที่เป็นสมาชิกชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มกระบี่ มีความผูกพันและต่อเนื่องไปยังสหกรณ์อื่น พื้นที่อื่น ทั้งที่ชุมนุมสหกรณ์ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอ่าวลึก แต่ต้องต่อเนื่องเกี่ยวเนื่องมายังพื้นที่นิคมคลองท่อม และเกี่ยวกันพันกับสหกรณ์นิคมคลองท่อม สหกรณ์การยาง และยังต่อเนื่องไปถึงการได้มาซึ่งที่ดินในนิคม และกรมสอบสวนคดีพิเศษยังสืบสวนสอบสวนพบเอกสารสิทธิมิชอบในนิคมสหกรณ์คลองท่อมที่ออกเป็นโฉนดที่ดินและมีการนำเอาโฉนดที่ดินไปใช้ตามสิทธิของผู้ได้รับเอกสารสิทธิที่ดิน และนำที่ดินเล่านี้ไปจัดการตามพระราชบัญญัติที่ดิน จึงส่งผลกระทบต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอื่น และผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องการได้ที่ดินโดยสุจริต และมีความซับซ้อนของการกระทำความผิด จึงได้ลงพื้นที่ร่วมกับรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาและหาทางเยียวยาให้ประชาชนชาวไทย หรือผู้ที่ได้รับสิทธิได้รับที่ดินในการจัดสรรที่ดินตามคุณสมบัติของการจัดรูปที่ดินในนิคมสหกรณ์” นายประวัติ กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น