xs
xsm
sm
md
lg

เศร้าใจ! คุณตาขอลาตายตามคุณยายหลังมะเร็งคร่าชีวิต ลูกหลานตั้งโลงคู่กันพิสูจน์รักแท้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - สุดเศร้า! คุณยายวัย 81 ปี มาด่วนจากไปด้วยโรคมะเร็ง ทำให้คุณตาวัย 87 ปี ทำใจไม่ได้ ขอตายตามไปอย่างสงบ หลังจากที่ทั้งคู่ครองรักกันมายาวนานถึง 65 ปี ลูกหลานจึงนำโลงศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลคู่กัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ คุณแม่บุญมี ยอดศรี หรือคุณยายบุญมี วัย 81 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ คุณพ่อมาต ยอดศรี (รอดรักษ์) หรือคุณตามาต วัย 87 ปี สามีของคุณยายบุญมี อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของภรรยาสุดที่รัก ก่อนที่จะบอกกับลูกหลานว่า “ไปพร้อมแม่ดีกว่า ลูกหลานร้องไห้ได้ แต่อย่าทะเลาะกัน” และหลังจากนั้นเพียง 3 วัน คุณตาได้นอนหลับนิ่ง เสียชีวิตตามคุณยายไปอย่างสงบ ในวันที่ 9 สิงหาคม 2566 ทางลูกหลานจึงนำศพของทั้งคู่มาตั้งบำเพ็ญกุศลคู่กัน พร้อมนำรูปที่คุณยายบุญมีกำลังนั่งตัดผมให้คุณตามาต ตอนที่ทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่มาวางไว้หน้าโลงศพด้วย

สำหรับคุณตามาต และคุณยายบุญมี สองสามีภรรยาคู่นี้ได้ครองรักกันมายาวนานถึง 65 ปี และมีลูกด้วยกันรวม 6 คน แต่ขณะนี้ลูกคนโตเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน จึงเหลือลูกๆ แค่ 5 คน โดยทั้งคุณตาและคุณยายเป็นบุคคลที่จิตใจดี คอยดูแลลูกๆ หลานๆ ไม่ห่าง จึงเป็นที่รักของลูกหลาน ญาติๆ และเพื่อนบ้านจึงเชื่อว่าคุณตามาต และคุณยายบุญมี เป็นคู่รักแท้ คู่บุญบารมีแก่กัน ดังนั้น เมื่อคุณยายมาเสียชีวิตลง คุณตาจึงกำหนดจิตตัวเองเพื่อหยุดลมหายใจ หลังจากสั่งเสียลูกหลานเสร็จสิ้น เพราะต้องการตามไปอยู่ด้วยกันกับภรรยาสุดที่รักในอีกภพ ทั้งนี้ ลูกหลานจะร่วมกันทำพิธีฌาปนกิจศพคุณตาคุณยายพร้อมกัน ณ วัดควนสีนวล หมู่ 7 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ในวันที่ 13 สิงหาคม


นางหนูรัตน์ ยอดศรี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 7 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง ซึ่งเป็นลูกสาวคนที่ 2 และนางพิมพ์ชนก ยอดศรี อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ บอกว่า คุณแม่บุญมี เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในปอด เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลก่อน แต่หลังจากนั้น คุณพ่อมาต ได้พูดว่าขอไปพร้อมแม่ดีกว่า เพราะเอ็นดูแม่อีก พร้อมสั่งเสียกับลูกๆ ว่าให้ร้องไห้ได้ แต่อย่าทะเลาะกัน ทั้งที่ตอนนั้นคุณพ่อไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไรเลย แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณแม่นอนป่วยอยู่ คุณพ่อเริ่มมีอาการหมดใจ ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำเหมือนกับคุณแม่ คล้ายกับอาการตรอมใจ เพราะตอนมีชีวิตอยู่ทั้งคู่รักกันมาก และรักกันมายาวนานกว่า 65 ปีแล้ว ไม่เคยจากกันไปไหนเลย อยู่ด้วยกันมาแบบเรียบง่าย ไม่เคยเถียงหรือทะเลาะกันเลย

“ทั้งพ่อและแม่เป็นคนใจดี จะดูแลซึ่งกันและกัน รวมทั้งดูแลลูกหลานอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะแม่มีอะไรจะหยิบยื่นให้ และทำกับข้าวเผื่อให้ลูกหลานเป็นประจำ แถมแม่ยังเป็นคนเอาใจเก่ง ไม่ค่อยนึกถึงตัวเอง จะคิดถึงพ่อ คิดถึงลูกหลานก่อนเสมอ ซึ่งหลังจากแม่จากไปได้ 3 คืน พ่อได้จากไปตามด้วยอาการสงบ ลูกหลานจึงได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ และฌาปนกิจศพทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน ซึ่งทางครอบครัวรู้สึกเสียใจมาก และหลังจากนี้ที่บ้านคงจะเงียบเหงา เพราะทั้งคู่เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทร และหลังเลิกงานของทุกๆ วัน ลูกหลานจะมานั่งหยอกล้อพูดคุยกับพ่อแม่เป็นประจำ และเคยพูดล้อเล่นกันว่า ถ้าแม่ตายไปก็จะรอพ่อ และจากที่หยอกล้อพูดคุยกันในวันนั้น ก็กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาในวันนี้”








กำลังโหลดความคิดเห็น