ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - DSI จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ บก.ปปป.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกที่สาธารณะ และการออกเอกสารสิทธิทับซ้อนที่ดินชาวบ้านใน อ.จะนะ จ.สงขลา เผยผลตรวจสอบพบข้อพิรุธในหลายประเด็น
วันนี้ (9 ส.ค.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการประสานจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บก.ปปป.ตร.) เกี่ยวกับนายทุนบุกรุกที่สาธารณะ และสำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ออกเอกสารสิทธิทับซ้อนที่ดินชาวบ้านในพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน และ ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา จึงได้สั่งการให้ นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยบูรณาการร่วมกับ พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.ตร.) พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปปป. พ.ต.อ.ธนวัฒน์ ฮิ่นยกหิ่น ผกก.1 บก.ปปป.
นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเรื่องสืบสวนที่ 139/2564 ของศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้เคยทำการสืบสวนไว้แล้ว โดยตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ มีการออกเอกสารสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายให้กลุ่มนายทุนหรือไม่ มีการออกเอกสารสิทธิทับซ้อนทับที่ดินสาธารณะ หรือที่ดินของชาวบ้านหรือไม่ โดยผลการตรวจสอบร่วมกันในวันนี้ พบข้อพิรุธเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบด้วยกฎหมายหลายประเด็น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงใหม่จากที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เคยตรวจสอบไว้ นอกจากนั้น ยังพบว่ากลุ่มนายทุน และชาวบ้านได้มีกรณีการฟ้องร้องกัน ทั้งทางแพ่ง และทางอาญาจำนวนหลายกรณีอีกด้วย
ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2565 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตามบัญชีท้าย ข้อ 25 คดีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน และเป็นความผิดซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยจะได้เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป
ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้ร่วมบูรณาการกับ บก.ปปป.ตร. ในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนร่วมกัน โดยจะดำเนินการให้เห็นถึงความถูกต้องในพื้นที่พิพาทดังกล่าว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป