ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าท่าภูเก็ตเตรียมแจ้งความเอาผิดเรือที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงทะเล ทำคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดเข้าชายหาดทะเลอันดมัน ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ และการท่องเที่ยว
จากกรณีมีคราบน้ำมันสีดำปริศนาถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่หาดต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต พังงา และคาดว่าจะมีพื้นที่อื่นๆ ในฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้มีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเก็บกวาดคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นบริเวณชายหาด เพื่อลดปัญหาในเบื้องต้น
ล่าสุด วันนี้ (6 ส.ค.) นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ตรวจสอบย้อนกลับเพื่อหาข้อมูลเรือที่เดินทางในเส้นทางฝั่งตะวันตกในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในระบบ VTS ของศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเลอันดามัน (CSCA) และ ได้มีการประสานกับทัพเรือภาค 3 เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่ได้นำเฮลิปคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจตรวจสอบค้นหาเรือตามแนวชายฝั่ง นอกจากนี้ จะได้ร่วมกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต (ทสจ.ภก.) และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
เพื่อจัดดทำบันทึกรวบรวมเอกสารหลักฐาน และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนที่สภ.สาคู ในวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2566 นี้ เพื่อสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 119 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้น้ำมันและเคมีภัณฑ์หรือสิ่งใดๆ ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทย
อันอาจจะเป็นเหตุให้เกิดเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือต่อสิ่งแวดล้อมหรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบดังกล่าว ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการแก้ไขสิ่งเป็นพิษหรือชดใช้ค่าเสียหายเหล่านั้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ที่ชายหาดในยางยังมีคราบน้ำมันสีดำอยู่ นอกจากนั้น เริ่มระบาดไปชายหาดอื่นๆ