ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตรวจสอบน้ำดำไหลลงทะเลหาดในยาง จ.ภูเก็ต หลังนักท่องเที่ยวประชาชนร้องเรียน ล่าสุดไม่พบน้ำสีดำแล้ว ท่าอากาศยานแจงระบบบำบัดน้ำเสียใช้งานได้ปกติ ส่วนน้ำดำคาดเกิดจากปริมาณน้ำฝนมากกระชากเอาตะกอนสีดำที่อยู่ในแอ่งน้ำ
จากกรณีมีข่าวความกังวลและห่วงใยจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่พบน้ำสีดำไหลออกมาทางท่อระบายน้ำด้านหลังบ้านพักพนักงาน สนามบินภูเก็ต ลงสู่ทะเล บริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ หาดในยาง จ.ภูเก็ต ซึ่งมีการถ่ายภาพนิ่งและร้องเรียนไปยังสื่อต่างๆ ซึ่งในภาพพบว่าลักษณะน้ำที่เกิดขึ้นในจุดดังกล่าวมีสีดำ และใต้ภาพบางภาพมีการระบุวันที่ถ่ายภาพว่าเป็นวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งผู้ร้องเรียนมีการตั้งข้อสังเกตว่า น้ำที่ปล่อยออกจากสนามบินภูเก็ตนั้นได้ผ่านการบำบัดที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานแล้วหรือไม่
ล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่มีการระบุว่ามีน้ำสีดำไหลลงทะเล อีกครั้ง โดยมี นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต นายวีระศักดิ์ อินทร์แสง ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษา ท่าอากาศยานภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าจุดที่เคยมีน้ำสีดำตามในภาพก่อนหน้านี้ ในวันนี้น้ำบริเวณดังกล่าวกลับมาสีปกติ และน้ำที่ไหลลงทะเลใสไม่มีสีดำเจือปนแต่อย่างใด ขณะที่ภาพในท่อพบว่ามีเศษขยะติดอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นจุดที่มีน้ำขัง
นายวีระศักดิ์ อินทร์แสง ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษา ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับน้ำที่ผ่านท่อระบายน้ำดังกล่าวเกิดจาก 3 ส่วน คือ น้ำที่เกิดจากมรสุมที่ซัดเข้ามาจะหอบเอาตะกอนต่างๆ เข้ามาติดอยู่ในทางระบายน้ำซึ่งช่วงนี้จะมีมากพเศษ ส่วนที่ 2 เกิดจากน้ำฝนซึ่งในช่วงวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมามีฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมอยู่ในระบบระบายน้ำจำนวนมาก ส่วนที่ 3 คือน้ำที่ใช้ในท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งน้ำทั้งหมดจะต้องผ่านระบบบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะปล่อยลงสู่ทางระบายน้ำ ซึ่งที่ผ่านมา มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปล่อยน้ำลงระบบระบายน้ำจะต้องผ่านมาตรฐานก่อนที่จะปล่อยออกมา ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียของท่าอากาศยานภูเก็ตนั้นสามารถรองรับปริมาณน้ำเสียได้ 2,500 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีเพียงพอรองรับกับปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้น
ขณะที่นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบแล้ว และที่ผ่านมาจะมีการตรวจสอบอยู่อย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนสาเหตุคงเป็นไปตามที่ทางท่าอากาศยานภูเก็ตชี้แจง ซึ่งต่อไปคงจะต้องกำหนดมาตรการในการป้องกัน และต้องหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ส่วนกรณณีน้ำที่ไหลออกมาในช่วงนี้ ทางท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ร่วมกับทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบว่าคุณภาพน้ำเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 15 วันถึงจะตรวจผลว่าค่าน้ำเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมา ทางท่าอากาศยานภูเก็ตได้ดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนดอยู่แล้ว และยืนยันว่าน้ำที่ปล่อยออกมาของท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วอย่างแน่นอน
นายวีระศักดิ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่มีน้ำดำไหลออกมาก่อนหน้านี้ จะสังเกตเห็นว่าบริเวณปากท่อระบายน้ำจะมีแอ่งน้ำอยู่ทำให้น้ำที่สะสมอยู่ในแอ่งดังกล่าวเป็นตะกอนสีดำ เมื่อมีฝนตกหนัก ปริมาณน้ำจะไหลผ่านท่อจำนวนมากทำให้กระชากเอาน้ำที่เป็นตะกอนในแอ่งดังกล่าวออกมาด้วย
นายวีระศักดิ์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงกรณีการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียของท่าอากาศยานภูเก็ต ที่ขณะนี้ยังไม่ได้มีบริษัทเข้ามาดำเนินการใหม่หลังหมดสัญญามาระยะหนึ่งว่า การบริหารจัดการไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะขณะนี้ทางท่าอากาศยานภูเก็ตได้จ้างบริษัทมาดูแลต่อในทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขุดบ่อเกรอะ การล้างเส้นท่อ หรืออื่นๆ ซึ่งมีการจ้างเป็นงานๆ ไป แต่กระบวนการการคัดเลือกผู้รับจ้างขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการคัดเลือก
ขณะที่นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ส่วนสาเหตุกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าสาเหตุที่มีน้ำสีดำไหลออกมาเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งในเบื้องต้นทางท่าอากาศยานได้ชี้แจ้งถึงสาเหตุแล้ว หลังจากนั้นคงจะต้องร่วมกันหามาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาอีก