ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จัดมหกรรมการแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงแชมป์ประเทศไทย แมตช์สุดท้ายของสนามนกเขาชวาเสียงนานาชาติหวังดี อ.จะนะ จ.สงขลา โดยมีเซียนนกเขาชวาเสียงจาก 4 ประเทศเข้าร่วม ทั้งไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ รวมนกแล้วเกือบ 1,000 ตัว
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่สนามนกเขาชวาเสียงนานาชาติหวังดี ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา นายอับดุลรอหมาน เส็นแอ ประธานชมรมนกเขาชวาเสียง อ.จะนะ หรือจูแหม ร่วมกับ บจก.ทรานส์ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด จัดการแข่งขันมหกรรมการแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งเป็นมหกรรมการแข่งขันนกเขาชวาเสียงรายการใหญ่สุดท้ายของสนามนกเขาชวาเสียงนานาชาติหวังดีแห่งนี้ หลังจากที่จัดการแข่งขันทั้งรายการชิงแชมป์ จ.สงขลา และชิงแชมป์นานาชาติมาแล้ว 2 ครั้ง
โดยมี นายกฤชณัทท พลรัตน์ นายอำเภอจะนะ เป็นประธานในพิธีเปิด มีบรรดาฟาร์มนกเขา เซียนนกเขาทั้งในประเทศไทย และจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ส่งนกเข้าแข่งขันเกือบ 1,000 ตัว และล้วนเป็นนกเขาเสียงดีที่เจ้าของส่งเข้าแข่งขัน เพราะเป็นรายการระดับประเทศรายการสุดท้ายของสนามแห่งนี้ และจะกลับมาจัดอีกครั้งในปีหน้า
แบ่งการแข่งเป็น 6 ประเภท คือ BB1, BB2 หรือว่าเบบี้ ซึ่งเป็นลูกนก ประเภท DR หรือว่าดาวรุ่ง และประเภทเสียงเล็ก เสียงกลาง เสียงใหญ่ นกเขาที่ชนะแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยรางวัล และนกที่ชนะเลิศจากสนามนกเขาชวาเสียงนานาชาติหวังดีแห่งนี้ ซึ่งเป็นสนามมาตรฐานระดับอาเซียน จะเป็นเครื่องการันตี และสร้างมูลค่าเพิ่มให้นกเขา ตั้งแต่ราคาหลักหมื่น จนถึงหลักแสน และบางตัวราคาหลักล้าน โดยมีบรรดาเจ้าของฟาร์มนกเขาจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ สามารถเข้าไปฟังเสียงนกที่เข้าแข่งขันได้ถึงในสนาม หากชอบนกตัวไหนก็ติดต่อซื้อขายกับเจ้าของโดยตรง ซึ่งมีที่นี่ที่เดียว
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้สนับสนุน นอกจากหน่วยงานในพื้นที่แล้ว ยังมีบรรดาฟาร์มนกเขาจากต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย สนับสนุนเงินในการจัดการแข่งขันด้วยปีละ 5,000 บาท ซึ่งเงินรายได้จากการจัดการแข่งขันในสนามสุดท้าย ส่วนหนึ่งมอบเป็นการกุศลให้โรงเรียนตาดีกา โรงเรียนสอนท่องจำอัลกุรอาน และองค์กรทางศาสนาอิสลามใน อ.จะนะ อีกด้วย
นายกฤชณัทท พลรัตน์ นายอำเภอจะนะ เปิดเผยว่า อำเภอจะนะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายนกเขาชวาเสียงอันดับหนึ่งในอาเซียน และนกเขากลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของ อ.จะนะ ที่สามารถสร้างมูลค่าสร้างรายได้ให้อีกหลายอาชีพใน อ.จะนะ เช่น ทำกรงนก และอุปกรณ์กรงนก รวมทั้งด้านการท่องเที่ยว
ขณะที่ นายอับดุลรอหมาน เส็นแอ ประธานชมรมนกเขาชวาเสียง อ.จะนะ หรือจูแหม เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันนกเขาชวาเสียงที่สนามแห่งนี้ แต่ละครั้งจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ อ.จะนะ ราว 70-80 ล้านบาท ทั้งการซื้อขายนกในกลุ่มของชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ที่มีกำลังซื้อสูง และเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยว แต่ละปีการแข่งขันนกเขาชวาเสียงที่จัดที่ อ.จะนะ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้รวมกันนับร้อยล้านบาท ที่สำคัญสนามนกเขาชวาเสียงนานาชาติหวังดีแห่งนี้ ยังเป็นสนามต้นแบบของการจัดการแข่งขัน ทั้งในประเทศ และในระดับอาเซียน จากมาตรฐานการจัดการแข่งขันที่ดีเยี่ยม และยุติธรรม
อย่างเช่นกรณีที่หากเซียนนกเขาจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ที่สามารถชนะเลิศในสนามนี้ จะได้รับการเชิดชูเกียรติประเทศของเขาในฐานะที่เป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศอีกด้วย และนกเขาชวาเสียง อ.จะนะ นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการซื้อขายนกเขาชวาเสียงของอาเซียนแล้ว ยังเป็นนกเขาสันติภาพที่นำมาซึ่งความสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย