พังงาคลื่นลมแรงเรือประมงพื้นบ้านหยุดจับปลา ส่งผลอาหารทะเลปรับตัวสูงขึ้น

พังงา -​ ราคาอาหารทะเลในพื้นที่พังงาเริ่มปรับขึ้นราคาและเริ่มขาดตลาดบ้างแล้ว หลังจากสภาพอากาศแปรปรวน คลื่นลมแรง น้ำทะเลไหลเชี่ยว ทำเรือประมงพื้นบ้านหยุดออกทะเลจับปลา


วันนี้ (30 ก.ค.) จากสภาวะอากาศที่แปรปรวน คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงในทะเลอันดามัน และน้ำทะเลไหลเชี่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการเรือประมงอวนดำ ประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดพังงา ต้องนำเรือเข้ามาจอดหลบคลื่นลม เนื่องจากไม่กล้าออกจับปลาเพราะเกรงว่าจะได้อันตรายจากคลื่นลมแรง ส่งผลให้ปลาและอาการทะเลเริ่มขาดตลาด และมีการปรับขึ้นราคา

จากการสำรวจราคาอาหารทะเลที่ตลาดสดบางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบว่าราคาสัตว์น้ำมีการปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเรือประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยลง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝนตกหนัก คลื่นลมแรง น้ำทะเลไหลเชี่ยว ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำประมง


โดยราคาปลาที่ลูกค้านิยมบริโภค เช่น ปลาทู จากเดิมราคากิโลกรัมละ 70 บาท ปรับราคาขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท ปลาลัง จากเดิมกิโลกรัมละ 70 บาท ปรับราคาขึ้นมากิโลกรัมละ 80 บาท ปลาตาจง จากเดิมกิโลละ 80 บาท ปรับราคาขึ้นมา 90 บาท ซึ่งราคาอาหารทะเลในช่วงนี้จะไม่คงที่ มีขึ้นบ้าง ลงบ้าง 

จากมรสุมคลื่นลมแรงน้ำทะเลไหลเชี่ยวทำให้ชาวเรือประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยลง ส่วนเรือประมงพื้นบ้านต้องงดออกจับปลา ส่งผลทำให้สัตว์น้ำบางชนิดเริ่มขาดตลาด แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากคลื่นลมสงบ ราคาสัตว์น้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างแน่นอน