สุราษฎร์ธานี - นักท่องเที่ยวเดินทางผ่านเรือเฟอร์รี่เข้ามาท่องเที่ยวในอำเภอเกาะสมุย เกาะพะงัน เเละเกาะเต่า ตลอดทั้งวันมีปริมาณเพิ่มขึ้น ขณะที่จากเหตุการณ์ เรือเฟอร์รี่เกิดเสียกลางทะเล ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี สั่งกำชับเรือเฟอร์รี่ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวให้ตรวจสภาพความพร้อมของเรือก่อนให้บริการ รวมถึงท่าอากาศยาน หากทัศนวิสัยไม่ได้ ห้ามนำเครื่องขึ้นลงเพื่อความปอดภัย
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ บ้านหน้าทอน หมู่ 3 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือโดยสารเฟอร์รี่ ของบริษัทซีทรานเฟอร์รี่ จำกัด ที่ให้บริการโดยสารข้ามแผ่นดินใหญ่ข้ามอ่าวไทย ระหว่าง อ.ดอนสัก และ อ.เกาะสมุย พบว่าในวันนี้ตลอดทั้งวันมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เริ่มทยอยเข้ามาท่องเที่ยวผ่านทางเรือเฟอร์รี่อย่างต่อเนื่อง โดยมีเรือเฟอร์รี่ให้บริการทุกๆ 1 ชั่วโมง ในระวางบรรทุกเรือเฟอร์รี่บรรทุกรถยนต์ได้ถึง 60-70 คันต่อเที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ครั้งละ 400-500 คน ซึ่งตลอดทั้งวันมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสาร รถสองแถว รถตู้ รถแท็กซี่ ที่นำรถยนต์มารอรับเพื่อให้บริการนำนักท่องเที่ยวไปส่งยังที่พักมีรายได้เพิ่มขึ้น
ขณะที่มาตรการความปลอดภัย ทางตำรวจ จราจร และตำรวจสายตรวจ สภ.เกาะสมุย นำกำลังมาอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และรักษาความปลอดภัยบริเวณท่าเรือตลอดเวลาที่มีเรือเข้าออกเทียบท่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (27 ก.ค.) ได้เกิดเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ได้นำเรือเฟอร์รี่ออกจากท่าเรือใน อ.ดอนสัก เวลา 19.00 น.มุ่งหน้าท่าเทียบเรือเกาะสมุย ในเวลา 20.30 น.ระหว่างที่เรือออกจากท่ามาได้ระยะหนึ่ง เรือเฟอร์รี่เกิดเสียทำให้เครื่องยนต์ในเรือดับ ทำให้ผู้โดยสารต่างหวีดร้องและตกในกันอย่างระทึก
ขณะเดียวกัน ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อโอมอินทร์ หลิมสุวรรณ ซึ่งเป็นผู้โดยสารมากับเรือเฟอร์รี่ดังกล่าวได้นำภาพวีดีโอ พร้อมข้อความ โฟสต์ลงในเฟซบุ๊กมีข้อความว่า “ราชา เฟอร์รี่ เครื่องเสีย ลอยลำกว่าชั่วโมง! รออีกลำตามมาลาก” และบรรยายเสียงว่าเรือเฟอร์รี่เครื่องดับ คลื่นก็แรง ทำให้เพื่อนสมาชิกเข้าไปแสดงความเป็นห่วงจำนวนมาก
นายโอมอินทร์ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับลูก ขณะเกิดเหตุเรือเฟอร์รี่ออกมาจากท่าได้สักพัก เครื่องยนต์ในเรือก็ดับ ซึ่งตนพร้อมกับลูก รวมทั้งผู้โดยสารบนเรือต่างวิ่งหาเสื้อชูชีพมาสวมใส่ ต่อมาได้มีเรือเฟอร์รี่อีกลำของบริษัทเดียวกันได้มาทำการลากจูงเรือลำที่เสียเพื่อนำกลับเข้าฝั่งเกาะสมุยได้อย่างปลอดภัย ในฐานะประชาชน ผู้บริโภคอยากให้มีการสร้างสะพานมาเกาะสมุย เพื่อสะดวกในการเดินทาง และไม่ต้องมานั่งลุ้นถึงความปลอดภัย
ล่าสุด นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายหลังจากที่ได้รับรายงานได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ สำนักงานเจ้าท่า และผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่ ขอให้ตรวจสอบสภาพเรือเฟอร์รี่ และความพร้อมของเรือรวมทั้งอุปกรณ์ภายในเรือก่อนออกให้บริการผู้โดยสาร พร้อมกันนี้ ยังได้สั่งกำชับท่าอากาศยาน ทั้งท่าอากาศยานจังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานเกาะสมุย ในเรื่องของความปลอดภัยก่อนออกให้บริการ หากสภาพอากาศไม่เป็นใจห้ามนำเครื่องขึ้นลง เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุดในช่วงวันหยุดยาว