xs
xsm
sm
md
lg

คนร้ายลอบยิงเจ้าของสวนทุเรียน 4 นัด ในสวนหลังบ้าน พบปืนสั้นตกอยู่ข้างศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชุมพร - คนร้ายลอบยิงเจ้าของสวนทุเรียนที่ จ.ชุมพร 4 นัด เสียชีวิตภายในสวนหลังบ้าน ตรวจพบปืนพกสั้นตกอยู่ข้างกาย เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาสาเหตุ ตามจับคนร้าย

พ.ต.ต.มาโนช ปลอดขันเงิน สว.(สอบสวน) สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในสวนทุเรียน หลังบ้านเลขที่ 222 หมู่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ชุมพร ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.หลังสวน และหน่วยกู้ชีพกู้ภัย สมาคมพุทธประทีป อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างถนนสายเอเชีย 41 เข้าไปในถนนสายรองบ้านหนองโพธิ์ ประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตสวมเสื้อเชิ้ตลายสีชมพู กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ที่บริเวณเอวคาดผ้าขาวม้าสีส้มตัดแดง ทราบชื่อภายหลังคือ นายประสิทธิ์ ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ที่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร สภาพถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณหน้าอก และหน้าท้อง จำนวน 4 นัด นอนหงายอยู่กลางสวนทุเรียนหลังบ้านของผู้ตาย ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในพงหญ้า จำนวน 1 กระบอก และยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ห่างศพ จำนวน 4 ปลอก และใต้โคนต้นทุเรียนอีก 1 ปลอก จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน

จากการสอบถาม นางชลิตา ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 4 ต.แหลมทราย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย ทราบว่า ตลอดทั้งวันตนเองทำงานอยู่ภายในบ้าน ส่วนนายประสิทธิ์ ผู้ตายเข้าไปในสวนหลังบ้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 ไร่ ซึ่งเป็นสวนยาง สวนปาล์ม และสวนทุเรียน ส่วนใหญ่สามีชอบพกอาวุธปืนสั้นเข้าไปในสวนบ่อยครั้ง และวันนี้ก็เช่นกันสามีพกอาวุธปืนเข้าไปในสวน

และบ่อยครั้งที่สามีมักจะยิงปืนในสวนเป็นประจำ ซึ่งในวันนี้เหมือนกันตนเองได้ยินเสียงไม่ได้แปลกใจอะไรถือเป็นปกติ จนกระทั่งช่วงเย็นได้เดินเข้าไปตามเพราะเห็นสามีหายไปนานเกิน ได้พบนายประสิทธิ์ สามีถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่กลางสวนทุเรียนแล้ว จึงได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ทางตำรวจได้สอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่า ผู้ตายมักจะชอบยิงปืนบ่อยครั้ง จนชาวบ้านใกล้เคียงรู้สึกหวาดผวาและเกรงกระสุนจะตกมาใส่ได้รับอันตราย อีกทั้งผู้ตายเองมักจะมีปากเสียงกับลูกสาวตนเอง ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาของผู้ตายกันมานาน ชนิดเจอหน้ากันไม่ค่อยได้

และก่อนจะเสียชีวิตลูกสาวและลูกเขยมาที่บ้าน ไม่นานทั้งคู่เดินทางกลับไป ซึ่งอาจจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่อย่างไรทางเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาสอบปากคำ และจะเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น