xs
xsm
sm
md
lg

10 ปีไม่เคยพบ! ชาวบ้านผวาแก๊งโจรลักขี้ยางอาละวาดหนัก ตระเวนขโมย 3 จังหวัด “ตรัง-กระบี่-นครศรีฯ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - ชาวบ้านผวาแก๊งโจรลักขี้ยางออกอาละวาดหนักทั้งกลางวัน-กลางคืน ตระเวนขโมยหลายจุดไม่สนกล้องวงจรปิด เผยค้าขายมา 10 ปี ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ตร.เร่งลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางพบความเชื่อมโยงกระบี่-นครศรีฯ โดนคล้ายๆ กัน

วันนี้ (21 ก.ค.) ชาวบ้านแจ้งในพื้นที่หลายหมู่บ้านของ ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ว่าขณะนี้มีแก๊งโจรอาละวาดออกลักขโมยขี้ยาง หรือยางก้นถ้วยตามบ้านชาวบ้าน ร้านรับซื้อย่อย รวมถึงลานรับซื้อยางก้นถ้วย โดยมีการก่อเหตุอย่างอุกอาจทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันแทบทุกวัน โดยบางวันลงมือหลายจุดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งที่จุดที่เข้าไปขโมยต่างมีกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันอย่างรัดกุม

โดยคนร้ายมีด้วยกัน 2 คน ใช้รถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่รุ่นใหม่ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในการก่อเหตุ และลงมือโดยใช้เวลาอันรวดเร็วเพียง 1-2 นาทีเท่านั้น โดยหลังจากขับสำรวจดูลาดเลาและเห็นจุดที่มียางก้นถ้วยตั้งกองไว้จะถอยท้ายรถมาเทียบและลงมือทันที โดยให้คนร้ายที่นั่งข้างคนขับ ซึ่งมีจุดสังเกตรูปพรรณมีรอยสักที่บริเวณขาขวา ใส่หมวก สวมแมสก์ปิดบังใบหน้า เปิดประตูรถค้างไว้แล้วรีบลงมาขนยางก้นถ้วยขึ้นท้ายกระบะอย่างรวดเร็ว โดยคนร้ายอีกคนที่เป็นคนขับจะไม่ลงมาเพื่อเตรียมพร้อมในการขับหนี แต่หากเจ้าของบ้านไม่อยู่จะลงมาพร้อมกันทั้ง 2 คน เพื่อรีบช่วยกันขนแล้วขับหนีไปอย่างลอยนวล


ทั้งนี้ ในการก่อเหตุแต่ละครั้งคนร้ายจะได้ยางก้นถ้วยตั้งแต่ไม่กี่สิบกิโลกรัม ไปจนถึงนับร้อยกิโลกรัม โดยราคาท้องถิ่นสำหรับยางก้นถ้วย กิโลกรัมละ 21-25 บาท นอกจากนี้ ยังมีพฤติการณ์ตระเวนลงมือแบบต่อเนื่องหลายจุดในพื้นที่ ม.13 บ้านแพรกโด พื้นที่ ม.1 และอีกหลายหมู่บ้านในพื้นที่ ต.อ่าวตง และบางหมู่บ้านใน ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ โดยผู้เสียหายบางส่วนได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่ สภ.วังวิเศษ โดยทางพนักงานสอบสวนได้จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางหลบหนี และกล้องวงจรปิดอย่างเต็มที่เพื่อตามล่าตัวมาดำเนินคดี และตรวจสอบความเชื่อมโยง เนื่องจากได้ภาพคนร้ายและยานพาหนะขณะก่อเหตุอย่างชัดเจน และสอดคล้องกันหลายจุด

โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ม.13 บ้านแพรกโด ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง สำรวจพื้นที่เกิดเหตุ และพบกับผู้เสียหายหลายราย ให้ข้อมูลในลักษณะเดียวกันถึงพฤติการณ์คนร้าย โดยเฉพาะยานพาหนะก่อเหตุคันดังกล่าว

นายชัยรัตน์ สุขแกล้ว อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ม.13 บ้านแพรกโด ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ เปิดเผยว่า ได้ไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้วว่ายางก้นถ้วยที่ตนรับซื้อถูกขโมยไปราว 100 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหายราว 2,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.ค.66 เป็นช่วงกลางวัน บังเอิญช่วงนั้นไม่มีใครอยู่บ้านพอดี คนร้ายมากัน 2 คน ขับรถกระบะโตโยต้ารีโว่ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดป้ายทะเบียน ขับเอาหน้ารถเข้ามาก่อนแล้วถอยออก ก่อนจะถอยท้ายรถเข้ามาเทียบแล้วขนยางก้นถ้วยไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งรถคันดังกล่าวตนไม่เคยเห็นในพื้นที่มาก่อน อีกทั้งตนรับซื้อยางก้นถ้วยในพื้นที่มากว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวว่าคนร้ายจะกลับมาอีก อยากให้ทางเจ้าหน้าที่เพิ่มการตรวจตราให้มากขึ้น อีกทั้งหลายคนต้องทำมาหากินเวลากลางคืน เช่น ออกไปกรีดยาง ไปตลาดซื้อของ ทำให้รู้สึกวิตกกังวล


ขณะที่รายงานข่าวจากแวดวงค้ายางก้นถ้วยในพื้นที่เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ อ.วังวิเศษ โดยเฉพาะ ต.อ่าวตง ไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน โดยเฉพาะลักษณะที่มีคนร้ายกลุ่มเดียวกันตระเวนก่อเหตุต่อเนื่องหลายจุด เชื่อว่าคนร้ายได้ตระเวนลักขโมยเพื่อรวมให้ได้มากก่อนนำไปขาย ซึ่งยางก้นถ้วยที่ขโมยมานั้นขายได้ง่ายกว่ากรณีการขโมยผลปาล์มน้ำมัน เพราะยังไม่มีกฎหมายหรือมาตรการเฝ้าระวัง เนื่องจากไม่ค่อยเกิดเหตุแบบนี้ ต่างจากปาล์มน้ำมันที่ผู้ขายไปลานรับซื้อต้องแสดงบัตรประชาชนและที่มาของผลผลิต แต่ยางก้นถ้วย เศษยางไม่มีตำหนิรูปพรรณและสิ่งแสดงความเป็นเจ้าของ คนร้ายจึงอาศัยช่องว่างตรงนี้ก่อเหตุ

ซึ่งประเมินหากสามารถตระเวนขโมยได้จุดละนิดละหน่อย จนเต็มรถกระบะซึ่งบรรทุกได้นับพันกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 20,000 บาท นอกจากนี้ ยังรับแจ้งจากเครือข่ายพื้นที่ใกล้เคียงว่ามีเหตุการณ์คล้ายคลึงกันทั้งรูปพรรณคนร้ายและรถที่ใช้ก่อเหตุ ในพื้นที่ ม.5 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ รวมถึง 4 จุดในคืนเดียวกันของพื้นที่ ม.5 ม.7 ม.8 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งทุกพื้นที่เป็นพื้นที่รอยต่อกันในระยะไม่เกิน 100 กิโลเมตร




กำลังโหลดความคิดเห็น