นครศรีธรรมราช - ตร.หิ้วทีมยิงเทรลเลอร์ส่งนมฝากขังศาลทุ่งสงแล้ว 3 ราย พร้อมเร่งล่า “ไอ้ป้อม” มือลั่นไกอีกราย ด้านทีมสังหารยันรับค่าจ้างแค่ 2 หมื่น ตร.ไม่เชื่อคาดถูกหักค่าหัวคิวระนาวก่อนถึงมือยิง
วันนี้ (14 ก.ค.) พ.ต.อ.ชัยพัฒน์ ศรีเรือง ผู้กำกับการ สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ได้คุมตัว 3 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรถเทรลเลอร์ลากคอนเทนเนอร์ส่งนมไปประเทศมาเลเซีย จนส่งผลให้ น.ส.ลลิลญา โกศัย อายุ 50 ปี ชาวหมู่ 7 ต.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี เสียชีวิต
ผู้ต้องหาที่ถูกคุมตัวฝากขังศาลทุ่งสง ในวันนี้รายแรกคือ นายยุทธศักดิ์ เกิดดี หรือจ้อง ชาว ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุ คนต่อมาคือ นายนภดล ช่วยชูใจ หรือเขียว อดีตสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.สำรอง) อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช มือปืนที่ก่อเหตุ โดยรับว่าใช้อาวุธปืนยิงไป 3 นัดเท่านั้น อีกรายคือ นายอวยชัย แสงจันทร์แก้ว หรือเอ ทำหน้าที่ผู้ชี้เป้าให้มือปืนลั่นไกสังหาร
ส่วนมือปืนอีกรายคือ นายธนาวุฒ เจริญรูป หรือป้อม ขณะนี้ยังหลบหนี โดยถูกซัดทอดว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนอีกกระบอกยิงถึง 13 นัด เจ้าหน้าที่กำลังติดตาม ส่วนอีกราย (สงวนชื่อ) ที่นั่งตอนหน้าของรถกระบะก่อเหตุ เจ้าหน้าที่พบพยานหลักฐานชัดว่าถูกชักชวนไปนั่งรถเที่ยวโดยที่ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้น ได้ให้การเป็นประโยชน์ เจ้าหน้าที่ได้กันเป็นพยานคนสำคัญและเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ตามยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไว้ได้แล้ว โดยเฉพาะรถยนต์กระบะอีซูซุสองตอน สีเทา ทะเบียน กพ 260 ตรัง อีกคันเป็นเก๋งซูซูกิสีขาว กอ 2347 นครศรีธรรมราช เป็นคันที่มือปืนคือ นายธนาวุฒิ เจริญรูป ใช้เป็นพาหนะขับมายังจุดนัดหมาย ก่อนขึ้นรถกระบะสองตอนไปก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 รายแรกที่ถูกแจ้งข้อหาคือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในทางสาธารณะ ชุมชน หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งได้ส่งฝากขังต่อศาลทุ่งสง พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว
และที่บริเวณลำห้วยใกล้บ้านของ นายยุทธศักดิ์ เกิดดี หรือจ้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำชุดประดาน้ำเข้างมหาของกลาง คือ ปลอกกระสุนปืน ที่ได้รับการยืนยันจาก นายยุทธศักดิ์ ว่าได้เก็บจากท้ายรถกระบะมาทิ้งในจุดนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่พบ ส่วนอาวุธปืนนั้น นายธนาวุฒิ เป็นผู้เก็บเอาไป ส่วนวงเงินค่าจ้างนั้นได้รับมาเพียง 20,000 บาทเท่านั้น โดยจ่ายให้คนชี้เป้าไป 5,000 บาท และถูกหักไปอีก 300 บาท
แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่ออยู่ในระหว่างการขยายผลทางบัญชี เนื่องจากการก่อเหตุลักษณะนี้ไม่น่าจะมีวงเงินแค่ 20,000 บาท แต่อาจเป็นไปได้ว่ามีการจ้างและส่งต่องานมาหลายทอด มีการหักหัวคิวเป็นทอดๆ จนเหลือถึงทีมก่อเหตุเพียง 20,000 บาทหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนประเด็นนั้นชัดเจนว่ามาจากความขัดแย้งในธุรกิจส่งนม