เที่ยวพังงาหน้าฝน สนุก...ชุ่มฉ่ำไปกับสายฝน ถ่ายรูปเช็กอินวิวป่าเกาะ เสม็ดนางชี แวะทักทาย “น้องมาดี” ที่ตลาดกระโสม ชิมหมี่ ไส้กรอกโบราณ พักกายพักใจในบรรยากาศสบายๆ “บ่อแสนวิลล่า” ก่อนไปสนุกแบบแอดเวนเจอร์กันที่ “สองแพรก” เรียกเสียงกรี๊ดด้วยกิจกรรม ล่องแก่ง-ขับรถ ATV ปิดท้ายไปเดินชิลชิล หาของกินหรอยๆ “ถนนคนเดินตะกั่วป่า” แวะเติมความสดชื่นด้วยกาแฟและเครื่องดื่มอีกมากมาย และพลาดไม่ได้ต้องชิมขนมท้องถิ่นตะกั่วป่า ที่ “โกปี๋ กั๋วป่า” หรือจะแวะชิมอาหารระดับ Michelin Good Book ก็มีให้เลือกหลายร้าน
เข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการกันแล้ว ช่วงนี้ฝนตกลงมาเกือบทุกวัน ถ้าจะรอให้ฝนหยุดตกแล้วค่อยเที่ยวคงต้องรออีกหลายเดือน ลองเปิดใจไปเที่ยวหน้าฝนกันบ้าง เที่ยวสนุกได้ไม่แพ้ช่วงอื่นๆ เที่ยวช่วงนี้...อย่ากลัวฝน จะได้อีกบรรยากาศ เราอยากเที่ยวช่วงฝนๆ บ้างเหมือนกัน บางกิจกรรมต้องทำหน้าฝนเท่านั้นถึงจะสนุกและได้ฟีล
ทริปนี้เราเลือกไปเที่ยวใกล้ๆ ภูเก็ต อยากพัก อยากเที่ยวในช่วงสั้นๆ สุดสัปดาห์ เสาร์-อาทิตย์ 2 วัน 1 คืน ที่ไม่ต้องขับรถไปไกล ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรให้มากมาย อยากไปก็ไปเลย “พังงา” จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดสำหรับก๊วนสาวๆ 5 คน และได้ ผอ.ททท.พังงา คุณอุทิศ ลิ่มสกุล พาเที่ยวด้วย
ขับรถออกจากเกาะภูเก็ตช่วงเช้าๆ พ้นสะพานสารสิน เลี้ยวเข้าไปจิบกาแฟ ชมวิวป่าเกาะ กันที่ “เสม็ดนางชี” อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของพังงา วันนั้นเราเลือกไปที่เสม็ดนางชี บูทิค เมื่อมาถึงซื้อตั๋ว 50 บาท สำหรับค่ารถขึ้นลงไปชมวิวที่ร้านกาแฟ ทางขึ้นจะชันนิดหนึ่งให้พอได้เสียว แต่ใช้เวลาแป๊บเดียว
เมื่อขึ้นไปถึงหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว มองออกไปจะเห็นภูเขาในทะเลเต็มไปหมด ที่เขาเรียกว่า “ป่าเกาะ” เป็นแบบนี้นี่เองวิวสวยหลักล้าน ใครจะอดใจไหว แชะภาพสวยๆ กันรัวๆ เต็มอิ่มกับวิวสวยๆ กันแล้ว สั่งกาแฟหอมกรุ่นมานั่งดื่มสักแก้ว ชมวิวไปเพลินๆ เมื่อเรามาในวันที่ฝนโปรยปราย การนั่งดื่มกาแฟชมสายฝนได้อีกบรรยากาศ ช่วงที่ฝนตกหนักภูเขาทั้งทะเลก็หายไป พอฝนเริ่มซา ภูเขาค่อยโผล่มาให้เห็น นั่งรอฝนหยุด ไม่ต้องรีบเร่ง ได้ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในช่วงเวลาสั้นๆ บ้างก็ดีน่ฝะ
หรือจะเลือกไปชมวิวที่ “จุดชมวิวอ่าวโต๊ะหลี” อยู่ไม่ไกลกัน ที่นี่เราสามารถขับรถขึ้นไปเองได้เลย ทางอาจจะคดเคี้ยวหน่อย แต่เนินไม่สูงมาก ค่อยๆ ไต่ขึ้นไป ถนนลาดซีเมนต์ขับสบาย ที่แรกว่าว้าวแล้ว พอมาถึงจุดชมวิวอ่าวโต๊ะหลี ยิ่งว้าวเข้าไปอีก วิวหลักล้าน เห็นป่าเกาะในมุมที่กว้างขึ้น มองได้ 180 องศา ขนาดฝนตกๆ หยุดๆ เรายังตื่นเต้นกับวิวเลย ถ้าวันที่ฝนไม่ตก ฟ้าเปิด จะสวยขนาดไหน ต้องมาดูเอง
ใครจะขึ้นมาชมวิว ทานกาแฟก็ได้นะ เขามีขายด้วย หรือใครอยากจะมานอนดูดาวยามค่ำคืน ดูพระอาทิตย์ขึ้นอาบแสงแรกของวันในยามเช้า ได้บรรยากาศที่แตกต่างกัน เขามีบริการเต็นท์ที่พัก รวมไปถึงอุปกรณ์สำหรับปิ้งย่างในราคาเบาๆ ด้วย ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจมาค้าง ครั้งต่อไปต้องมานอนดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้นอย่างแน่นอน
ดื่มด่ำกับวิวภูเขาในทะเล หันมาดูนาฬิกา อ้าว! ใกล้เที่ยงแล้ว ไปหาของกินอร่อยๆ กันดีกว่า มีคนแนะนำ “ร้านเจ๊ติ๊ก” ในตลาดกระโสม บะหมี่โบราณอร่อยมากๆ ต้องพิสูจน์ว่าจริงตามคำร่ำลือหรือไม่ เพราะทางผ่านไปพังงาอยู่แล้ว วันนั้นสั่งบะหมี่แห้ง เย็นตาโฟน้ำ บอกเลยว่าอร่อยจริง เขามีทั้งบะหมี่ เย็นตาโฟ กวยจั๊บ ผ่านกระโสมครั้งต่อไปต้องแวะอีก (ติดใจ) ใกล้ๆ กัน มีร้านขายไส้กรอกหมูโบราณ ขึ้นชื่อ อร่อยมากๆ ร้านนี้แวะชิมหลายครั้งแล้ว ส่วนคนที่ชอบทานขนมสดมีขาย มีให้เลือกหลายอย่าง
อย่าเพิ่งไปต่อ มากระโสมแล้วต้องแวะไปทักทาย “น้องมาดี” Street Art ล่าสุดของพังงา น้องมาดีรอทุกคนอยู่ที่ฝาผนังบ้านสไลต์ซิโนโคโลเนียล ถ่ายรูปเช็กอินกัน หรือจะถ่ายกับประตู หน้าต่างของบ้านก็สวยนะ เราถ่ายมาแล้ว ชอบๆ
อิ่มท้องกันแล้ว เดินทางต่อเข้าเมืองตัวเมืองพังงา ตอนแรกตั้งใจไปล่องแพไม้ไผ่ ใน ถ้ำพุงช้าง อีกหนึ่ง Unseen ของพังงา ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม แต่ฝนตกหนักไม่สามารถเข้าไปได้ เราจึงแวะไปชม ภาพเขียนโบราณบนผนังถ้ำ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่ "ถ้ำชำ" เป็นภาพเขียนที่สื่อถึงพระพุทธศาสนา และวิถีชีวิตของคนใต้ ภาพฟินิก ดอกไม้ คาดว่าน่าจะอยู่ในสมัยรับชกาลที่ 3 ถ้ำแห่งนี้ร่มรื่นดี โดยเฉพาะที่หน้าถ้ำมีบึงน้ำสีเขียวมรกต บรรยากาศดีมากๆ ก่อนที่จะไปต่อที่ "เจดีย์เขาล้างบาศ" ต้องเดินขึ้นบันไดปูนหลายขั้นอยู่นะกว่าจะถึงเจดีย์
เที่ยวมาทั้งวันได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว เราพักที่ “บ่อแสนวิลล่า” พูลวิลล่า 2 ห้องนอน ท่ามกลางธรรมชาติ โอบล้อมด้วยขุนเขา ถ้าคืนไหนฝนตก เช้าๆ ตื่นขึ้นมาจะเห็นหมอกปกคลุมภูเขา สวยงามมาก บรรยากาศดี มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะ นึกถึงที่พักในพังงา ต้องนึกถึงบ่อแสนวิลล่า มีห้องพักให้เลือกตั้งแต่ 1 ห้องนอนไปจนถึง 4 ห้องนอน มีความเป็นส่วนตัวมากๆ
ต้องบอกว่าที่บ่อแสนวิลล่า ตอนเช้าๆ อากาศดีมาก เราเลือกที่จะชวนกันออกไปปั่นจักรยานรอบๆ รีสอร์ต ก่อนทานอาหารเช้า
วันที่สองไปเที่ยวแบบลุยๆ ล่องแก่ง ขับรถ ATV ที่สองแพรก เข้ากับช่วงหน้าฝน ขาลุยชอบแน่ สนุก มันส์ๆ เรียกเสียงกรี๊ดได้ตลอดทาง จะวัยรุ่นหรือวัยไหนก็เล่นได้ถ้าใจสู้ ขับ ATV เส้นทางเขาดีมาก ยิ่งฝนตกๆ ทำให้ท้าทายขึ้น ขับลุยน้ำ ลุยหิน ลุยโคลน ลุยพงหญ้า ขับในเส้นทางลำบากริมคลอง ที่วัดใจกันสุดๆ ก็ขับช่วงที่ต้องข้ามลุยน้ำข้ามคลองทั้งขาไปและขากลับนี่แหละ
ลุยต่อที่ล่องแก่ง มีวันละ 2 รอบ 11.30 และ 13.30 น. ล่องไปตามลำน้ำที่มีทั้งล่องน้ำลึก น้ำเชี่ยว ซอกหิน เรือกระแทกหินใหญ่เรียกเสียงกรี๊ดได้ทั้งลำ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายน้ำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กรี๊ดกันไปตลอดทาง สำหรับคนที่ไม่เคยล่องแก่งก็ไม่ต้องกลัว เขามีฝีพายดูแลความปลอดภัย ลำละ 2 คน ชำนาญเส้นทาง รู้ว่าช่วงไหนต้องทำอย่างไรให้ทุกคนในเรือปลอดภัย สนุก และกรี๊ดออกมากันดังๆ
ถ้าขาลุยยังไหว ไปต่อกันที่ "ถนนสายวัฒนธรรมตะกั่วป่า" (ถนนคนเดินตะกั่วป่า) มีทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ มีของขายเยอะแยะ ไปเดินชิลชิล เลือกหาของกินอร่อยๆ ที่มีของกินแบบท้องถิ่นตะกั่วป่าให้เลือกอร่อยกันมากมาย หรือจะแวะไปนั่งดื่มชา กาแฟที่ร้าน “โกปี๋ กั่วป่า” ก็ได้นะ ร้านนี้เขามีขนนท้องถิ่นอร่อยรสชาติคนตะกั่วป่าให้เลือกชิมทั้งขนมสด และขนมแห้ง พร้อมเครื่องดื่มในบรรยากาศบ้านโบราณ มีมุมให้คนที่ชอบถ่ายรูปถ่ายกันไม่เบื่อเลยทีเดียว
พังงา มีร้านอาหารที่ได้รับ Michelin Good Book หลายร้านและหลายพื้นที่ แวะชิมกันได้ เช่น ครัวต้นฝน ตั้งอยู่ที่สามแยกทางลัดที่จะไปอ่าวลึก มีเมนูได้ Michelin ต้มยำมะพร้าวอ่อน หมูผัดเคยหอม ยำต้นฝน และเมนูอื่นๆ อีก เด็ดจริงๆ ร้านนี้ แวะทานกันได้เลย หรือจะเป็นครัวใบเตย ร้านเลอดัง ร้านเนินเขา ร้านกอบโภชนา และอีกหลายร้าน
จะช่วงไหนๆ จะหน้าฝน หน้าร้อน พังงาก็น่าเที่ยว ยิ่งอยู่ภูเก็ตด้วยแล้ว ขับรถไปชั่วโมงกว่าก็ถึง อยากพัก อยากเที่ยว ใกล้ๆ ไปเช้า-เย็นกลับ หรือค้างสักคืนสองคืน ไปพังงากัน ที่เที่ยวสวยๆ ของกินหรอยๆ เที่ยวใต้ให้ปัง..ต้องพังงา