พัทลุง - วอนช่วยเหลือครอบครัวเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ในพื้นที่ ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง แม่ตกต้นไม้นอนป่วยติดเตียง พ่อเป็นอดีตทหารพรานเจออุบัติเหตุเท้าไม่ปกติ 1 ข้าง ขณะที่ “น้องอริส” ช่วยสอนการบ้านเพื่อนได้วันละ 10 บาท
จากกรณีที่นายณรงค์ บุญน้อย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวขอความช่วยเหลือครอบครัว “น้องอริส” หรือ ด.ญ.อริสรา ศรีสม อายุ 8 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านเหรียงงาม ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง ว่าครอบครัวนี้ลำบากจริงๆ พ่อเป็นอดีตทหารพราน โดนยิงที่ขาต้องออกจากทหารมารักษาตัวอยู่บ้าน ตอนนี้อาการรักษาไม่ต่อเนื่อง น้ำในเส้นเลือดคั่ง ส่วนแม่คนสู้ชีวิต ก่อนจะนอนติดเตียง แม่ขยันทำงาน ครั้งสุดท้ายได้ขึ้นต้นไม้รับจ้างเพื่อเก็บผลไม้ แต่พลาดตกจากต้นไม้ จนทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะที่ลูกสาว 2 คน คนโตเพิ่งจะสอบเข้าเรียนได้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.2 เรียนได้ระดับต้นของห้อง ถือว่าลูกทั้ง 2 คนเรียนเก่ง
ปัจจุบัน พ่อทำงานส่งลูกทั้ง 2 คน และดูแลภรรยาที่ป่วยติดเตียง ในแต่ละวันรับงานจ้างจากเพื่อนบ้าน โดยการตัดยาง หรือตัดหญ้า แต่ไม่สามารถมีเงินใช้จ่ายได้พอเพียง บวกกับบางวันเจ็บขาก็ไม่ได้ทำงาน โดยหลังจากที่โพสต์เฟซบุ๊กไปมีคนใจบุญได้นำสิ่งของ และร่วมสมทบทุนกันมาตามศรัทธา ให้ซื้อของอุปโภคบริโภค และเครื่องใช้ในห้องน้ำ ของใช้ครัวเรือน ที่สำคัญคือแพมเพิร์สที่ภรรยาต้องใช้ตลอด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านเลขที่ 230 หมู่ 6 ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง และพบว่าผู้ใจบุญที่ทราบข่าวต่างเดินทางนำข้าวสารอาหารแห้ง และน้ำดื่มมาช่วยเหลือ โดยนายชัยวัตร ศรีสม อายุ 46 ปี ผู้เป็นพ่อ นางเบญจพร ยุกตานนท์ ผู้เป็นแม่ อายุ 52 ปี เล่าว่า เมื่อก่อนเคยเป็นทหารพรานในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ แต่ด้วยอุบัติเหตุปืนลั่นใสขาช่วงเดินลาดตระเวนเมื่อ 5 ปีก่อน จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนลาออกและกลับมาอยู่บ้าน โดยภรรยาเป็นคนดูแล แต่ช่วงปลายปีเดียวกันภรรยาไปช่วยเก็บลองกองหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว เกิดพลัดตกจากต้นลองกอง จนต้องนอนป่วยติดเตียง โดยก่อนที่จะไปขึ้นลองกอง ตนเองนั้นหมอนัดผ่าตัดครั้งที่ 2 แต่ไม่ได้ไปผ่าตัด เพราะต้องดูแลภรรยาและลูก โดยที่ถือไม้เท้าไว้ข้างหนึ่ง สุดท้ายตนเองก็ไม่ได้รักษา จนขาอักเสบมาถึงทุกวันนี้ ภรรยาก็ป่วยติดเตียง ชีวิตมันหนักจนบอกอะไรไม่ถูก
ขณะที่ลูกสาวคือน้องอริส บางวันก็ไม่ได้ไปโรงเรียน หากวันไหนตื่นสายต้องฝากญาติไป ซึ่งจะให้ปั่นจักรยานไปโรงเรียน ก็กลัวรถเพราะต้องข้ามถนนใหญ่ บางทีต้องทำใจ อยู่บ้านน้องก็ช่วยดูแลแม่ เช็ดตัว หาอาหารให้ตลอด
ส่วนรายได้บางวันรับจ้างได้วันละ 200-300 บาท บางวันก็ไม่ได้เลย เพราะเจ็บขา ไม่ได้ออกไปรับจ้าง มันเป็นชีวิตที่ท้อ รายได้หลักจากภรรยาที่ได้จากบัตรคนพิการ 800 บาท นั่นคือเงินประจำแต่ละเดือน แต่ไม่เพียงพอ โดยน้องอริสนั้น ช่วงเลิกเรียนผู้ปกครองของเพื่อนได้จ้างให้สอนพิเศษแก่ลูกเขา โดยมอบเงินให้วันละ 10 บาทเป็นค่าขนม
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เหลือบไปเห็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างพัดลม ที่ใช้พัดให้ภรรยา พบว่าเป็นพัดลมเก่า และใช้ใบพัดที่ตัดด้วยกระดาษลัง มาพัดเพื่อระบายความร้อน จนล่าสุดมีผู้ใจบุญช่วยอนุเคราะห์จัดซื้อพัดลมใหม่ให้แล้ว
“ส่วนไฟฟ้าที่ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ โดยถูกยกหม้อไฟไปแล้วก่อนหน้านี้ เหลือแต่สายและได้ต่อพ่วงมาจากบ้านหลังอื่นเพื่อนำมาใช้ และไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกยกหม้ออีก เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ มันเป็นอะไรที่รันทดกับชีวิต” พ่อของน้องอริส กล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของไฟฟ้า ล่าสุดได้มีพลเมืองดีประสงค์จะจ่ายค่าไฟที่ค้างให้ พร้อมทั้งประสานการไฟฟ้ามาติดหม้อแปลงให้ใหม่ เพราะหากไม่มีไฟฟ้าใช้ ทางครอบครัวจะลำบาก ทั้งอากาศร้อน ไม่มีแสงสว่างในยามค่ำคืน
ด้านครูและผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเหรียงงาม กล่าวว่า น้องอริสเป็นเด็กขยันและเก่ง คอยช่วยเหลือเพื่อนตลอด มาโรงเรียนร่าเริง เข้ากับเพื่อนได้ดี ถึงแม้ว่าครอบครัวของน้องจะมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก แต่น้องก็ยังสู้
โดยผู้ใจบุญสามารถให้การช่วยเหลือครอบครัวน้องอริส สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.06-2247-3837 บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาศรีบรรพต น.ส.เบญจพร ยุกตานนท์ เลขที่บัญชี 020047712711
